คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2018 เรื่อง “การกิน การอยู่ก็สำคัญ” โดย นคร เวชสุภาพร

คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2018

เรื่อง “การกิน การอยู่ก็สำคัญ”

โดย นคร  เวชสุภาพร

            สวัสดีครับพี่น้อง จะมาฝากข้อเตือนใจ พระคัมภีร์บอกไว้ว่าความรักของพระเจ้าที่มีต่อเราทั้งหมด มันเหลือล้นมาก อันนี้ไม่ต้องพิสูจน์นะ เป็นความเชื่อที่เห็นชัดเจน ที่พระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวมาสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ตายเพื่อมนุษย์ทั้งหลาย  เพื่อเราทั้งหลาย มันพิสูจน์แล้วว่าพระองค์ทรงรัก เมตตา หวังดีต่อเราจริงๆ จริงใจ

คราวนี้ ความหวังดี พระองค์ก็ทรงกระทำตามที่แผนการของพระองค์ทรงวางไว้ ซึ่งเป็นกฎ เป็นระเบียบหมดเลยนะ พระองค์ฝืนกฎระเบียบของพระองค์เองก็ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ ยกตัวอย่างเช่นพระเยซูถูกส่งมาบนโลกใบนี้ เพื่อมนุษย์ได้รับความรอด จากบาป ถูกไหม? รอดจากนรกใช่ไหม? แล้วถามว่าทุกคนต้องทำอย่างไร? ทุกคนก็ต้องทำตามกฎระเบียบ คือต้องไปใช้สิทธิของเขา พระเจ้าไม่มาบังคับ บีบคอเขาให้เขาเชื่อ อย่างนี้ ยกตัวอย่าง มันเป็นกฎระเบียบ

พระเจ้าคงน้ำตาไหลมากเลย ถ้าคนไม่ใช้สิทธิของเขา ไม่เชื่อในพระเยซู ไม่รู้ทำอย่างไร? นี่เราก็รู้ๆ กันอยู่ แล้วเรื่องอื่นล่ะ เหมือนกันแหละ เรื่องพรก็เหมือนกัน  พรหลายๆ อย่างที่เราขอ  พระคัมภีร์ก็บอกไว้อย่างนั้นว่ามันมีกฎ มีระเบียบของมัน พระเจ้าอยากให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด ก็เลยประทานถ้อยคำของพระองค์ สอนเราในพระคัมภีร์ ทั้งเรื่องโลกวิญญาณ เรื่องโลกวัตถุ

โลกวิญญาณก็จะมีกฎของโลกวิญญาณเอง  ยกตัวอย่างโลกวิญญาณ เชื่อพระเยซู แล้วได้รับความรอดแล้ว ได้รับการอภัยจากบาป  100%  ได้รับแน่นอน  อภัยให้แน่นอน ได้รับความรอดแน่นอน ได้บังเกิดใหม่แน่นอน นี่คือกฎของโลกวิญญาณ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามใบโลกใบนี้ ถ้ากฎของโลกวิญญาณ คือคุณเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ เป็นพระบุตรของพระเจ้า เกิดเป็นมนุษย์และตายที่ไม้กางเขน เพื่อคุณ และเป็นขึ้นมาใหม่ในวันที่ 3 คุณได้เกิดใหม่แน่นอน ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ เห็นไหม? นี่คือกฎ

ในทำนองสลับกัน คือไม่ว่าคุณเชื่อในโลกวิญญาณอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าคุณทำอะไร บนโลกใบนี้ ตามกฎของโลกใบนี้ มันมีอยู่ว่าคุณทำอะไร? คุณก็ต้องเก็บเกี่ยวในสิ่งนั้นเหล่านั้น พระเจ้าอยากจะช่วยเราเต็มที่ ก็ประทานถ้อยคำให้กับเรา สอนเรา เพื่อให้เราเป็นอิสระ ความจริงจะทำให้เราเป็นไท ถ้อยคำพระเจ้าบอกว่าความจริงจะทำให้เราเป็นไท

เกริ่นมาตั้งเยอะ ทุกคนคิดว่าจะพูดอะไรน่า? จะพูดว่าพระเจ้าสอนเราหลายๆ อย่าง ให้เรากระทำ แล้วมันจะเป็นพรกับชีวิตของเรา คือการบังคับเนื้อหนัง กิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ร่างกายของเรา ซึ่งยังดำเนินชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ถ้าเราบังคับมันได้มาก เราก็ได้พรมาก ถ้าเราบังคับมันได้น้อย เราก็ได้พรน้อย  เราก็เสียประโยชน์ไป

อย่างเช่นเปาโลบอกว่าอะไรที่มันเป็นประโยชน์ เป็นการเสริมสร้าง ก็จงทำไปเถอะ  เป็นคริสเตียน ไม่มีกฎข้อห้าม คืออยากจะทำ เชิญเลย แต่คิดดูให้ดีๆ ว่าที่ทำไป มันมีประโยชน์หรือเปล่า? ถ้ามันมีประโยชน์ ก็ทำ ถ้าไม่มีประโยชน์ ก็อย่าทำเลย ถ้าทำแล้วทำไม? ตกนรกหรือ? ไม่ตกหรอก ถ้าทำแล้ว ไม่มีความสุข ไม่ได้รับความรอด หรือเหมือนรอดด้วยไฟ ทรมาทรกรรม

ยกตัวอย่าง สำคัญมาก วันนี้มากเตือนให้ ทุกๆ ปี ก็พูดเตือนตรงนี้แหละ แล้วก็เตือนอยู่เรื่อยๆ ทุกคนก็ยังอยู่ในกิเลสตัณหาตรงนี้มากที่สุด  แล้วทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อนมากขึ้นทุกวันๆ ในยุคปัจจุบันนี้ เยอะขึ้นทุกวันๆ พูดเพื่อเตือนทุกคน แล้วเตือนตัวเองด้วย เตือนคนรักด้วย บางครั้ง เราเตือนมากไป ก็หาว่ายุ่งนะ แต่มันต้องเตือน ก็คือเรื่องของสุภาษิต 23:2 ใครจำได้บ้าง?

สุภาษิต 23:2 “ถ้าเจ้าตะกละเห็นแก่กิน ก็จงเอามีดจ่อคอหอยตนเองไว้”

 

ถ้าเจ้าตะกละ ก็คืออยากกิน ใช่ไหม? จำได้ใช่ไหม? เตือนแล้วใช่ไหมว่าง่ายๆ ที่จำได้ง่ายๆ ไม่ใช่มาเรียนเรื่องสุขลักษณะ หรือว่าสุขภาพในปัจจุบัน อะไรเป็นอะไร? ยากเย็นเข็ญใจ ง่ายๆ จำไว้เลย เตือนไว้บอกว่าเป็นผลสรุปเรียบร้อยแล้วว่าแป้งและน้ำตาล มันอันตรายต่อชีวิตเรามาก มันคือยาเสพติด ยิ่งกินยิ่งติด แล้วมันบ่อนทำลายร่างกายเรา ทำให้แก่ และตายก่อนวัยอันควร มันทำให้เราต้องทรมานกับสุขภาพร่างกาย โรคหลายโรค ทุกโรคเลยล่ะ มันทำให้เราอ่อนแอลง และโรคเหล่านั้น ก็รุมเราได้ เชื้อโรคอะไรต่างๆ ความเสียหายของร่างกาย อย่างนี้เป็นต้น

ก็ต้องเตือนทุกปี พอเดือนมกราคมก็ทำได้อยู่ พอเดือนธันวาคมฉ่ำเลย กินหมด อะไรที่มันหวาน สำหรับร่างกายแล้ว อย่างที่บอก มันไม่มีคำว่าแป้ง มันมีแต่น้ำตาลกับน้ำตาล  กินน้ำตาลมันก็เป็นน้ำตาล กินแป้งไป ร่างกายมันบอกไม่รู้หรอกว่าเป็นแป้ง มันก็คือน้ำตาล จะกินอะไรเข้าไป มันคือน้ำตาลหมด และสิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายต่อชีวิตเรามาก เตือนแล้วหลายครั้ง

เชตใหม่ ปีหน้าเริ่มต้น อยากลดความอ้วน ก็ลดน้ำตาล แป้ง แล้วก็คอยสังเกตอันหนึ่งที่เคยบอกไว้ มี 3 อันทีชัดๆ คือแป้ง น้ำตาล และน้ำมันที่ผ่านกรรมวิธี นี่เขาก็พิสูจน์มาแล้วว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพิษ มันเป็นพิษ สนใจหน่อยเถอะ กินน้ำมันมะพร้าวดีๆ ไม่อยากกิน มีกลิ่นบ้างล่ะ กลิ่นไม่หอม ไม่หวาน ไม่มัน ไม่อร่อย กลับไปกินน้ำมันพืชเหมือนเดิม น้ำมันถั่วเหลืองเหมือนเดิม แล้วมันก็เป็นพิษต่อร่างกาย

นี่แหละคือที่ตะกี้นี้บอก “ถ้าเจ้าตะกละ” ตะกละ หมายถึงมันอยาก เราต้องสู้กับมันด้วยสติปัญญา ถ้อยคำพระเจ้า และคำอธิษฐานด้วย  และความรู้อย่างนี้ เรามาเล่าสู่กันฟัง เป็นแบบพี่น้องง่ายๆ  ไม่ต้องเรียนสูง ก็รู้แล้วว่าน้ำมันผ่านกรรมวิธี ตามซุปเปอร์มาเก็ตที่วางอยู่ อะไรที่มันใส อยู่ได้เป็นปีๆ หลายๆ ปี ก็ไม่เสีย พวกนั้น แล้วจะไปหาข้อมูลเหล่านี้ เดี๋ยวนี้หาง่ายจะตายในอินเตอร์เนต เยอะแยะไปหมด

สนใจสิ่งเหล่านี้ เพื่อเราจะได้ประโยชน์ ได้การเสริมสร้างขึ้นในชีวิตของเรา และคนที่เราดูแลอยู่ ในครอบครัวเรา อาจจะมีสามี ภรรยา ลูก พ่อแม่ หลาน คนที่เราดูแลอยู่ อย่างที่โบสถ์ ตั้งแต่แนะนำไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน เดี๋ยวนี้สะอาดหมดจด ทุกคนรับประทานอย่างมีความสุข อาจจะยังมีแป้งบ้าง แต่อย่างที่บอกว่าให้เอาไปลดส่วนตัว เราไม่ได้บังคับ แต่ให้รู้ ค่อยๆ ลดลง กินให้มันน้อยๆ หน่อย ไม่ใช่กินไม่ได้ แต่กินให้มันน้อยๆ หน่อย แต่น้ำมันไม่มีแล้ว น้ำมันที่นี่ น้ำมันมะพร้าวตลอด แถมบริการให้สมาชิกในราคาถูกอีกต่างหาก พยายามยัดเยียดให้ไปกินให้ได้  หลายคนก็ติดเป็นนิสัย แล้วก็ได้ผลไปแล้ว ก็ดีใจด้วย แต่หลายคน รวมทั้งวัยรุ่นต่างๆ เตือนไว้ พยายามเตือนไว้ วัยรุ่นวันนี้ วันหน้า ก็คือเป็นผู้ใหญ่ จะเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง หรือเจ็บป่วย  อ่อนแอ ก็อยู่ตรงนี้  การกินสำคัญ

จากประสบการณ์และเห็นชัดๆ เลย ดูผู้คนหลายๆ คน ผมให้การกินเป็นเบอร์หนึ่ง ออกกำลังกายเป็นเบอร์ 2 เบอร์ 3 เบอร์ 4 ไม่ออกกำลังกายยังได้เลย  กินให้ถูกต้อง กินให้ดีๆ เพราะกินให้ถูกต้อง กินให้ดีๆ สุขภาพแข็งแรง มันอยากจะออกกำลังกายเอง ทำงานโน้นทำงานนี้ อยากจะออกกำลังกายเอง มันเป็นไปเอง แต่บังคับให้ออกกำลังกาย ไปออกกำลังกาย แต่กินไม่ดี วันนี้ลดไป 1 ขีด กินไป 1 กิโลฯ มันจะไปรอดได้อย่างไร? ในที่สุด ป่วย ต่อให้อยากออกกำลังกาย แต่ป่วย มันก็ไม่ไหวแล้ว ออกกำลังกายไม่ได้  เห็นไหม? เสียผลประโยชน์ เสียสุขภาพ ได้รับความรอดไหม? คนละเรื่องกัน รอด ไปสวรรค์ แต่ไปแบบเหมือนถูกรนด้วยไฟ เหมือนผ่านไฟไป  ร้อนรนเลย อย่างนี้  เลยอยากจะเตือน และเตือนอีก เตือนทุกๆ ปี

3 สิ่งนี้ ง่ายๆ เอาง่ายๆ ก่อนเลย 3 สิ่งนี้ที่ควรลดให้มันน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วก็คอยสังเกต คอยหาความรู้เรื่องเกี่ยวกับ 3 สิ่งนี้ คือ …

(1) แป้ง

(2) น้ำตาล

(3) ไขมันต่างๆ

แป้ง น้ำตาล และน้ำมันที่ใช้ น้ำมันผัดข้าว อย่างคุณไปสั่งอาหารตามสั่ง ตามร้าน ตอนเที่ยงหรือตอนเย็น

“ผัดกะเพราะไก่จานหนึ่ง”

คิดในใจเลย 3 สิ่งนี้ มีอยู่ในนั้นหรือเปล่า? มีเยอะน้อยเท่าไร? คิด ถ้าคิดได้ปุ๊บ ไม่รอดแน่ หิว แต่น้ำมันเห็นเลย น้ำมันถั่วเหลือง มันคงจะดูดลงไปในข้าว ข้าวก็เป็นแป้งอีกต่างหาก มีไก่อยู่นิดเดียว คิดสะระตะ จำได้วันนั้น พาสเตอร์เตือนแล้ว เพราะฉะนั้น อดทน แทนที่จะสั่งไก่ผัดกะเพรา กลายเป็นไข่ต้ม 2 ฟอง รองท้องได้ไหม? ไข่ต้ม 2 ฟอง หมดเลย หายไปเลย ข้าวหายไป น้ำมันไม่ดีหายไปแล้ว สมมติตอนนั้น เราไม่มีทางเลือก ไปเจอร้านนี้ แล้วก็หิวแล้ว และไม่มีอย่างอื่นให้เลือก ไข่ต้มก็ยังได้ เห็นไหม? มันต้องใส่ใจไง ไม่ใช่ผมทำได้ทุกอย่างนะ ผมก็พูดเหมือนเปาโล …

“ไม่ใช่ข้าพเจ้าได้ทุกอย่าง แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าต้องทำอะไร?”

ทุกวันนี้ก็พยายามอยู่ และจนตาย ก็คงไม่ครบถ้วนบริบูรณ์หรอก ไม่เหมือนวิญญาณที่สมบูรณ์แบบแล้ว เนื้อหนังมันไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็พยายามทำ ให้มันได้ทรมานน้อย มันจะได้ทุกข์น้อยๆ หน่อย เอเมน

จำได้ไหม? นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง ท่านก็ไปดัดแปลงเองว่าไปเจออะไร? ที่ไหนอย่างไร? ท่านระวัง 3 สิ่งนี้ให้ดีๆ ไปในร้านอาหาร หรือว่าไปในร้านสะดวกซื้อ จะไปซื้อน้ำกินขวดหนึ่ง มองไปเลย แป้งและน้ำตาล ไม่เอา มองไป แป้ง น้ำตาลๆ ไม่เอา มันหิวน้ำ  ไม่เอาๆ อันนี้เย็นๆ หยิบได้ เป็นอะไร? น้ำเปล่า ซึ่งคนหยิบน้อยที่สุดเลย หารู้ไม่ว่าน้ำเปล่า เป็นพิษน้อย บางคนบอกไปซื้อทำไมน้ำเปล่า ที่บ้านก็มีกิน แต่ไหนๆ จะมาซื้อทีหนึ่ง ก็ซื้อที่มันหวานๆ หน่อยสิ เอาพิษเข้าตัว ลืมไปว่า 5 บาท 10 บาท ที่เราไปซื้อน้ำขวดหนึ่ง  มันเพิ่มความสุข หรือเพิ่มความทุกข์ให้กับเรา เราจะเสีย 10 บาทอยู่แล้ว ไม่ใช่เสีย 10 บาทแล้ว ต้องซื้อน้ำหวานๆ สิ ที่บ้านไม่มี อย่างนี้

เพราะฉะนั้น ลองเปลี่ยน  นี่คือหนึ่งในจำนวนการเปลี่ยนความคิด จะรู้สึกหิวข้าว จะทานอะไร จะจับอะไรใส่ปาก นึกถึง 3 สิ่งนี้ให้ดีๆ แป้ง น้ำตาล น้ำมัน มีไหม? กรอบๆ ฉีกออกมากรอบๆ นั้น มันทำมาจากอะไร? คิด เราจะกินอะไรเข้าไป คิด อย่า ทำตามที่พระคัมภีร์บอกตะกละ แล้วจ่อคอหอยไว้เลย ก็เพราะอะไร? เพราะมันคือความตายกำลังเข้ามา เราไม่ได้กลัวตายหรอก แต่เรากลัวความตาย  พระเจ้าไม่ได้ให้เรากลัวความตาย ความตายเราไม่กลัวเลย เราไปสวรรค์แน่ แต่เราไม่อยากให้ชีวิตมันต้องเป็นภาระคนอื่น แล้วตัวเราเองก็ทุกข์ทรมานด้วย ไม่จำเป็น

ความจริงถ้อยคำพระเจ้าเหล่านี้ เป็นประโยชน์ในชีวิตของเรา  เพื่อเราจะได้รักษาชีวิตเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เหมือนกับอันอื่นๆ ที่เราอยากจะทำให้มันดีๆ อันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในชีวิตเรา ซึ่งเราปล่อยปละละเลย เราไม่นึกว่าสิ่งเหล่านี้ พระเจ้าจะสนใจ สนใจหมด แต่ในพระคัมภีร์บอกหมดเลย อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรเป็นประโยชน์ก็จงทำไปเถิด อะไรเสริมสร้าง ก็จงทำ อะไรไม่เป็นประโยชน์ ไม่เสริมสร้าง ก็จงอย่าทำ ความจริงจะทำให้ท่านเป็นไท นี่คือความจริงที่เขาพิสูจน์มาแล้ว ที่เขาวิจัยมาแล้ว ทั่วโลกยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ คือถูกต้อง สุขภาพดี ไม่ใช่ ท่านทดลองๆ เอาทดลองสักปีหนึ่ง จากอีก 2 วันข้างหน้า  ขึ้นปีหน้าปุ๊บ  ทั้งปีเลย ลองงดน้ำตาลหมดเลย ดูสิว่ามันเป็นอย่างไร?  กินน้ำมันมะพร้าวดูสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น พิสูจน์ได้ใน 2 เดือนยังได้  ดูว่ามันจริงไหมว่าสุขภาพมันดีขึ้นหรือไม่? เอเมน

ปีหนึ่ง มาคุยกันครั้งหนึ่ง อย่าหาว่ามายุ่งเรื่องส่วนตัว ฉันจะกิน แต่อยากจะเห็นท่านมีสุขภาพที่ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับเราที่เป็นมนุษย์ธรรมดา และพระเจ้าประทานสติปัญญาให้กับเรา ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไป นิดหนึ่ง หน่อยหนึ่ง อดทน ลด ละ กิเลสของเราไปบ้าง ความอยากอะไรต่างๆ ไม่ใช่ชีวิตทรมาน แต่เป็นชีวิตที่มีสติ ไม่ใช่ไม่ทานเลยขนมหวาน ทานบ้าง แต่อย่าเยอะ สติของเรา กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน กินเพื่อให้มันมีชีวิตอยู่ วันหนึ่งก็ทิ้งร่างกายนี้ แล้วแต่พระเจ้าจะใช้มานานเท่าไร? กินเพื่ออยู่ กินเดะเลย  อันนี้ก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองตะกละไป เอเมน

 

*****************************