คำบรรยายวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2015 เรื่อง “ทำดีเพื่อพ่อ” โดย นคร เวชสุภาพร

คำบรรยายวันอาทิตย์ที่  29  พฤศจิกายน  2015

เรื่อง “ทำดีเพื่อพ่อ”

โดย นคร  เวชสุภาพร

 

ไหนๆ จะคุยกันเรื่องวันพ่อแล้ว ท่านพอจะทราบประวัติวันพ่อไหม? วันพ่อของประเทศไทยมาได้อย่างไร?

วันพ่อของไทยเรามีมาตั้งแต่ปี 2523 วันที่ 5 ธันวาคม 2523 โดยหลักการและเหตุผลที่มีการจัดการจัดตั้งวันพ่อแห่งชาติขึ้น ก็เนื่องจากพ่อเป็นบุคคลที่มีพระคุณ และมีบทบาทต่อครอบครัวและสังคม ที่ผู้เป็นลูกสมควรจะเคารพเทิดทูนและกตัญญูทดแทนพระคุณ และสังคมควรจะยกย่องให้เกียรติและรำลึกถึงผู้ที่เป็นพ่อ นี่คือหลักการ ความตั้งใจที่เขาตั้งวันพ่อแห่งชาติ

และเพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่มีความยิ่งใหญ่ ทรงเสียสละและรักพสกนิกรชาวไทยเสมือนหนึ่งเป็นลูกๆ ของพระองค์ เราจึงถือเอาวันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นพ่อแห่งชาติ และหลังๆ มานี้ ช่วงวันพ่อของทุกๆ ปี เราก็จะได้ยินหน่วยงานต่างๆ ทั้งทางภาครัฐบาลและเอกชนมาร่วมกันรณรงค์กิจกรรมที่มีชื่อว่า “ทำดีเพื่อพ่อ”

การบรรยายในวันนี้ก็จะเน้นไปที่ว่าทำดีเพื่อพ่อ ทำอย่างไร? มันหมายความว่าอย่างไร?

พวกเราคริสเตียน ที่เป็นคนไทย อาศัยอยู่ในประเทศไทย ดังนั้น คำว่า “พ่อ” สำหรับเราในประเทศนี้ จึงมีตั้งแต่ใคร? พระเจ้าพระบิดา พ่อในสวรรค์ของเรา แล้วก็หมายถึงใครอีก? พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือพ่อหลวงของแผ่นดินไทยของเรา และหมายถึงพ่อ ผู้ให้กำเนิดเรานั่นเอง

ผมจำได้นะครับ ที่ทางหน่วยงานราชการออกมารณรงค์ เรื่องการทำดี เพื่อพ่อ ก็มีคนเอามาวิเคราะห์ ถกเถียงกันว่าทำดีในที่นี่ ครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง? ทำดีเพื่อพ่อ ทำอย่างไร? ทำอะไรบ้าง? เคยคิดไหม? เขาก็คิด … คิดกันใหญ่เลย ทำอะไรล่ะ ก็ไปถกเถียงกันใหญ่ ทำอย่างไร? แล้วก็พยายามวิเคราะห์กันออกมา ต้องทำดีขนาดไหน? ทำให้ใคร? ถึงจะเข้าข่ายคำว่าทำดี เพื่อพ่อ หลายๆ หน่วยงานเขาก็ร่วมมือกัน แล้วก็ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ แล้วก็ให้ประชาชนมาร่วมโครงการ โดยให้แต่ละคนตั้ง ปณิธานในสิ่ง ที่ตนคิดว่าเป็นความดีที่จะทำให้ได้

คำถาม คือแล้วการกระทำความดีแบบไหน? ทำดีแบบไหน? จึงจะเรียกได้ว่าทำดี เพื่อพ่อ ทำแบบไหน?

น่าคิดไหม? ท่านว่าทำดีแบบไหน? ที่เรียกว่าทำดีเพื่อพ่อ เถียงกันไป เถียงกันมา ราชการ ก็เลยมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ หน่วยกลางจัดประชุม หาให้ได้ว่าทำดีเพื่อพ่อ ทำอย่างไร? มีความหมายอย่างไร? ให้ทำเป็นคู่มือ ทำดีเพื่อพ่อต้องมีคู่มือเลยนะ

ก็เลยได้ผลสรุปความหมายของคำว่าทำดีเพื่อพ่อ หรือการทำดีเพื่อพ่อ สรุปออกมาทั้งเล่มเลยว่าการทำดีเพื่อพ่อ ก็คือทำอะไรก็ได้ ที่คิดว่าสิ่งนั้นจะทำให้พ่อมีความสุข ง่ายเลยนะตอนนี้

“ทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน แต่ต้องทำให้สิ่งนั้น พ่อมีความสุข”

ตามใจฉัน ใช่ แต่แล้วพ่อมีความสุข ไม่ใช่ทำให้เรามีความสุขนะ พ่อมีความสุข แล้วในคู่มือก็มีบอกตัวอย่างการกระทำดี เพื่อพ่อ แบ่งไว้ 4 ระดับอย่างนี้นะ นี่เล่าให้ฟังก่อนนะ ในคู่มือ

ระดับที่ 1 ทำดีต่อตัวเอง

ระดับที่ 2 ทำดีต่อครอบครัว

ระดับที่ 3 ทำดีต่อสังคม หรือชุมชน

ระดับที่ 4 ทำดีต่อโลก หรือสิ่งแวดล้อม

เขาบอกไว้อย่างนี้

ตัวอย่างของการทำดี เพื่อตนเอง ที่ทำให้พ่อมีความสุขนะ ทำดี เพื่อตัวเอง แต่พ่อมีความสุข ก็เช่น เลิกบุหรี่ เลิกสิ่งอบายมุก รับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด เริ่มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เริ่มกินน้อย จากที่น้ำหนักเกินเยอะๆ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ถ้าเป็นนักเรียน ก็เช่น จะอ่านหนังสือเพิ่มวันละหนึ่งชั่วโมง อะไรอย่างนี้เป็นต้น ประมาณนี้ นี่คือทำตัวเอง ให้กับตัวเอง แต่ใครมีความสุข พ่อมีความสุข

ตัวอย่างของการทำดีต่อครอบครัว จะจัดสรรเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น  จะกตัญญูต่อพ่อแม่ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นต้น อย่างนี้นะครับ ในครอบครัว

ตัวอย่างของการทำดีต่อสังคม มีอะไรบ้าง? เช่น แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส เพื่อสังคมแล้วนะ  อาสาสมัครอ่านหนังสือให้คนตาบอด มีมารยาทในการขับขี่ รักษากฎจราจร อย่างนี้เป็นต้น อย่างนี้ทำ แล้วพ่อก็มีความสุข

ตัวอย่างการกระทำดีเพื่อโลกเลย หรือสิ่งแวดล้อม ฟังดูเหมือนไกลนะ แต่จริงๆ มันไม่ไกลนะ ทำได้ไม่ยาก เช่น ช่วยกันปลูกต้นไม้ อย่างนี้เป็นต้น ลดปริมาณการใช้ทรัพยากร เช่น น้ำ น้ำมัน รักษาความสะอาดในที่สาธารณะ เป็นต้น ใช้น้ำ ไม่มีใครเห็น ก็ใช้ให้มันประหยัดที่สุด อย่างนี้ ไม่ใช่ไม่มีใครเห็น ก็ปล่อยมันล้นอยู่อย่างนั้น อะไรอย่างนี้ ประมาณหนึ่ง คือสร้างจิตสำนึกลงไปในสิ่งที่ดีๆ

ทำอย่างนี้  พอพ่อรู้ พ่อได้ยิน พ่อก็เห็น พ่อก็มีความสุข

และหลังจากมีกิจกรรมทำดี เพื่อพ่อออกมา ก็มีประชาชนออกมาให้ความร่วมมือเป็นจำนวนมาก ท่านลองนึกในใจดูสิว่าท่านจะร่วมทำดี เพื่อพ่อ ท่านตั้งใจจะทำอะไร? ถ้าสมมติตอนนี้เป็นท่าน ท่านเข้าร่วมโครงการ ท่านจะทำอะไร? ตั้งแต่มีโครงการนี้ขึ้นมา ทำดีเพื่อพ่อมาถึงเดี๋ยวนี้ ถึงปัจจุบัน เรามาดูสิว่าเขามีสถิติคนที่ตั้งปณิธานว่าจะทำดีเพื่อพ่อ เขาทำอะไร? เรามาแอบดูของเขานะ

ปณิธานความดี ที่มีผู้ตั้งใจทำมากที่สุด 4 อันดับแรก คือ.- ลองทายดูนะครับ คนที่ตั้งใจจะทำดีมากที่สุด เพื่อพ่อ อันดับแรก คืออะไรรู้ไหม? เบอร์หนึ่งนะ นี่เป็นสถิตินะ ดูสิจะเหมือนไหม? บางคนอาจจะเอาไปใช้ได้

อันดับแรก คือไม่นอนตื่นสาย เหมือนไหม? เหมือนที่ตะกี้นี้คิดไหม?

อันดับที่ 2 คือไม่ดื่มเหล้า อันนี้พอเดาออก

อันดับที่ 3 คือให้อภัยผู้อื่น นี่เป็นสถิตินะ

อันดับที่ 4 คือช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

เห็นไหม? นี่ 4 อันดับที่เขาไปดูสถิติมา ไปแอบดูสถิติเขา และทั้งหมดที่พูดมานี้ ก็เป็นเรื่องของการตั้งปณิธาน หรือตั้งใจวางแผน ที่จะทำความดี เพื่อถวายต่อพ่อหลวง คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยทั้งปวง  นี่คือสถิติ

ถ้าผมถามว่าเหตุใด ประชาชนคนไทยทั่วประเทศหลายล้านคน จึงพร้อมใจกันลุกขึ้น มาตั้งปณิธานที่จะทำดีเพื่อในหลวงของเรา เพราะอะไรครับ ตอบ เพราะอะไร? บางคน ได้ยินข้างหลังบอก เพราะรักในหลวง ถูก แต่ไม่ใช่ต้นเหตุ

เพราะพระองค์ทรงมีพระคุณมากมายเหลือล้นต่อชาติบ้านเมือง พระองค์ทรงรักพสกนิกรของพระองค์ และก็ได้ทรงสำแดงความรักของพระองค์ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อทุกคนแล้ว นี่คือก่อน นี่คือต้นเหตุ  พระคุณความรักของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา  ที่ได้สำแดงต่อประชาชนชาวไทยแล้ว คือคำตอบที่ถามว่าทำไมคนไทยทั้งประเทศ จึงพร้อมใจกันที่จะทำความดี เพื่อพระองค์ท่าน ก็เพราะว่าท่านรักเราก่อน ท่านให้เราก่อน ถูกหรือไม่ถูก? ถูกไหม?  ที่ทุกคนจะให้พร้อมกัน ตั้งปณิธาน ทำความดี เพื่อท่าน ไม่ใช่เพราะมีใครบังคับ ไม่ใช่เพราะเป็นกฎหมาย ไม่ใช่เพราะเป็นกระแสของผู้คน ไม่ใช่ แต่เพราะทุกคนนึกถึงพระคุณของความรักของพระองค์ท่านก่อน ที่ให้เราก่อน ซึ่งมันตรงกับในทางพระเจ้าเป๊ะเลย

ในทางของพระเจ้า พระคัมภีร์สอนในลักษณะอย่างนี้เป๊ะเลย โรม 12:1-2 อ่านพร้อมกันนะครับ อ่านพร้อมกันดังๆ นะครับ

โรม 12:1-2  “1 เหตุฉะนั้น  พี่น้องทั้งหลาย  เมื่อพิจารณาถึงพระคุณ  ความเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง 2 อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์ และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัย และสมบูรณ์พร้อมของพระองค์”

 

“เพื่อเห็นแก่พระคุณความเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า”

ก็แปลว่าพระคุณ ความรัก ความเมตตาของพระเจ้า ต้องเกิดก่อน และเมื่อท่านได้รับพระคุณความรัก ความเมตตาของพระเจ้ามาแล้ว ท่านจึงควรกระทำสิ่งนี้ เพื่อเป็นการทดแทนพระคุณ คือถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าให้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และเป็นที่พอพระทัย ก็คือพระเจ้ามีความสุข พ่อมีความสุข นั่นเอง เห็นไหมครับ

พระคัมภีร์ 1 ยอห์น 4:19 ก็บันทึกไว้อย่างนี้นะครับว่า “เรารัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน”

 

อะไรมาก่อน พระองค์ทรงรักเราก่อน เราจึงรักพระองค์ พระเจ้าทรงรักเรามาก … มากขนาดไหน? ขนาดที่ยอห์น 3:16 ที่เราท่องกันเป็นประจำ บันทึกไว้อย่างนี้ว่า.-

ยอห์น 3:16 “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศ จะได้รับชีวิตนิรันดร์”

 

เพราะว่าพระองค์ทรงรักมนุษย์ทุกคนมากยิ่งนัก  จึงได้ทรงเสียสละลูกของตัวเองเลย พระเจ้าทรงรักเราก่อน และไม่ได้บอกว่ารักเฉยๆ แต่พระองค์ได้ทรงสำแดง ตรงนี้สำคัญนะครับ ได้ทรงสำแดงความรักของพระองค์ แสดงความรักของพระองค์ให้เห็น โดยการกระทำ และพระคุณความรักอันยิ่งใหญ่สูงสุดของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเรา ก็คือพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ทรงประทานให้กับเรานั้น สิ้นพระชนม์เพื่อเรา ที่ไม้กางเขน  นี่ความรักยิ่งใหญ่

ลึกซึ้งที่สุด “พระเจ้ารักเราถึงขนาดนี้  ถึงขนาดเสียสละลูกของเราเองให้กับเขา เพื่อคนบาปอย่างเขา คนบาปอย่างนคร คนบาปอย่างเราแต่ละคน จะได้มีชีวิตนิรันดร์ มันต้องซึ้งตรงนี้ โรม 5:8 บันทึกไว้อย่างนี้ เราอ่านพร้อมกันนะ

โรม 5:8 “พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์เองแก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อเรา

 

และเมื่อเราได้รับรู้ถึงความรัก  พระคุณความรัก ความเมตตาของพระเจ้า  ที่ได้ทรงสำแดงให้เราแล้ว สำแดงแล้ว ได้ทำแล้ว กระทำแล้ว เราจึงต้องการที่จะตอบแทนพระคุณความรักของพระองค์ด้วยการทำดี เพื่อพ่อ ตามที่พระคัมภีร์สอนไว้ในโรม 12:1-2  เราอ่านไปเมื่อตะกี้นี้ว่าถวายตัวของเราแด่พระเจ้า ให้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอยู่ ที่บริสุทธิ์ นี่พระคัมภีร์เขียนไว้อย่างนั้น ที่เราอ่านร่วมกัน ที่บริสุทธิ์และที่พระเจ้าพอพระทัย … พอพระทัย คือมีความสุข คืออะไร? คือไม่ดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้  แต่จะรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของเราใหม่ เพื่อที่เราจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ ไม่ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ คือพระประสงค์อันดี อันเป็นที่พอพระทัย อันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ เราจึงจะได้รู้ว่าพ่อเราจะมีความสุขอย่างไร? เมื่อเราทำอะไร? เมื่อเราทำสิ่งนี้ พ่อเราจะมีความสุขแค่ไหน? แล้วเราทำสิ่งนี้ล่ะ มีความสุขมากขึ้น แล้วสิ่งนี้ล่ะ เสียใจมากเลย

เราจะได้รู้ไง เมื่อเราถวายชีวิตเราแด่พระองค์ ถวายเพราะอะไร? เพราะเราซาบซึ้งในความรักของท่าน ที่มีให้กับเราก่อน

คนไทยทั้งประเทศทำดี เพื่อพ่อหลวงของแผ่นดินไทย ก็เพราะพ่อหลวงได้ทรงสำแดงความรักของพระองค์ให้กับคนไทยทั้งประเทศได้เห็นก่อนแล้ว เป็นเวลานาน คริสเตียนทำดีเพื่อพ่อในสวรรค์ ก็เพราะพ่อในสวรรค์ได้ทรงสำแดงพระคุณความรัก ความเมตตาของพระองค์ ผ่านทางพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์ ฉันใดก็ฉันนั้น ท่านทั้งหลาย ที่เป็นพ่อ ที่เป็นมนุษย์ เป็นลูกที่เป็นมนุษย์ ท่านพอจะเห็นภาพอะไรไหมครับว่ามันคืออะไร?  พอเห็นชัดไหม?  มันคืออะไรตอนนี้ ที่เราเปรียบเทียบอย่างนี้ เราเป็นพ่อหรือเป็นลูกธรรมดา อยู่ในครอบครัว เราพอจะมองเห็นอะไรไหมว่ามีหลักการอะไรอยู่ในนี้ ไม่ว่าเรากำลังพูดถึงพ่อในสวรรค์ คือพระเจ้า หรือพ่อของแผ่นดิน คือพระเจ้าแผ่นดิน หรือพ่อที่บ้านของเรา ก่อนที่จะมีการทำดี เพื่อพ่อ สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นก่อน คืออะไรครับ?  คือความรักและการสำแดงความรักของผู้ที่เป็นพ่อ เห็นไหม? ตอนนี้เรารู้แล้ว สิ่งนี้ต้องเกิดก่อน ถ้าสิ่งนี้ไม่เกิด อีกอันหนึ่งก็จะไม่เกิด

เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดอันแรก เราไปดูต้นเหตุ ก็คือความรักและการสำแดงความรักของผู้ที่เป็นพ่อ ต้องเสียสละก่อน ต้องสำแดงให้ได้เห็นก่อน เพราะฉะนั้น ถ้าเราต้องการให้ลูกเรา ทำดี เพื่อเรา (อันนี้พ่อก็ได้ แม่ก็ได้)  ถ้าเราต้องการให้ลูกเราทำดี เพื่อเรา

คำว่า “ทำดีเพื่อพ่อ” เราก็ต้องเริ่มจากความรักที่มีให้กับเขาก่อน ต้องสำแดงให้ลูกเราเห็นว่าเรารักเขาจริงๆ และความรักนี่แหละ ที่จะเป็นสิ่งที่ผูกพันลูกๆ กับเรา ทำให้ลูกอยู่ในทางที่เราอยากให้เขาเป็น โดยที่เขาไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ แต่เขาทำด้วยความเต็มใจ เอเมน

ซึ้งหรือเปล่า? เหม่อเลย ทั้งพ่อแม่ด้วยนะครับ ฟังไปพร้อมๆ กัน รวมถึงผู้ที่จะเป็นพ่อแม่ในอนาคตด้วย ยังเป็นวัยรุ่นในขณะนี้ เหมือนที่เราได้มอบชีวิตให้กับพระเจ้าใช่ไหม? อดทนยืนหยัดอยู่ในทางพระเจ้า ยำเกรงพระเจ้า เราก็ทำด้วยความเต็มใจ  พยายามทำให้ดีที่สุด

ถามว่าเราถวายชีวิตแด่พระเจ้า เราทำเพราะเป็นกฎบัญญัติหรือเปล่า? เป็นหรือเปล่า?  ไม่ใช่

เพราะเรากลัวพระเจ้าลงโทษเหรอ? ไม่ใช่

เพราะกลัวพระเจ้าจะตัดชื่อเราออกจากสมุดของพระองค์ สมุดแห่งความรอดของพระองค์ใช่ไหม? ไม่ใช่

เพราะกลัวพระเจ้าจะไม่รัก และไม่อวยพรเราใช่หรือเปล่า? อาจจะใช่นิดๆ เปล่าเลยใช่ไหม? ไม่ใช่เลยใช่ไหม?

ที่เราทำไปทั้งหมด  เพื่อถวายแด่พระเจ้า ก็เพราะเรารักพระองค์ และที่เรารักพระองค์ ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน และไม่ใช่แค่นั้น  หยุด ไม่ใช่รักเราก่อนแล้วเฉยๆ แต่ได้สำแดงความรักของพระองค์ให้เราได้เห็นแล้ว คือที่พระเยซูทรงคริสต์ถูกตรึงที่ไม้กางเขน ด้วยความทุกข์ทรมาน ตายที่นั้น เพื่อคนบาปอย่างเรา ตรงนี้  ถึงบอกว่าถ้าใครไม่เห็นตรงนี้ แหม! โอกาสที่มันจะเป็นคริสเตียนที่ดีได้ มันยากมากนะ แต่ถ้าเห็นตรงนี้แล้ว สบายใจได้แล้วคนนั้น ไปรอดแน่ หมายถึงรอดทั้งวิญญาณและการดำเนินชีวิต เป็นที่ถวายเกียรติได้แน่ๆ

คนไทยทั้งประเทศ ทำดี เพื่อถวายในหลวง  เพราะถูกรัฐบาลบังคับหรือ? ใช่ไหม? ไม่ใช่ เราทำ ก็เพราะพระองค์มีพระคุณมหาศาลต่อชาติ บ้านเมือง ทรงเหน็ดเหนื่อย เพื่อพสกนิกรมายาวนาน เราจึงต้องการตอบแทนพระคุณของพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ มีความสุข ถูกหรือไม่ถูก?

ในคู่มือทำดี เพื่อพ่อ ที่ราชการทำออกมา จึงได้บอกไว้ว่าการทำดีเพื่อพ่อ คือการทำอะไรก็ได้ ที่คิดว่าสิ่งนั้น ทำแล้ว พ่อมีความสุข

เราอยากให้ในหลวงเรามีความสุข เราคิดว่าเราทำสิ่งนี้แล้วท่านจะสุขไหม? คิดในใจ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เป็นตัววัดชีวิตของเราว่าเราจะทำอะไรบ้าง? เพื่อพระองค์ท่าน สังเกตให้ดีนะครับ หลักการ คือทำดี เพื่อพ่อ ไม่ใช่แค่ทำดีต่อพ่อนะ หรือทำดีให้พ่อ ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่ว่าเราต้องปฏิบัติต่อพ่อ หรือให้อะไรแก่พ่อเท่านั้น ทำดีเพื่อพ่อ คือทำดีให้พ่อมีความสุข เพราะบางครั้งเราทำไป พ่อไม่ได้รับหรอก ในสิ่งที่เราทำ อย่างที่บอกว่าเราอดอาหารให้มันน้ำหนักไม่เกิน หรือเราออกกำลังกาย พ่อเราไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย แต่สิ่งที่พอพ่อรู้ พ่อทำไม? มีความสุข นี่คือยกตัวอย่างให้ท่านฟัง

เหมือนที่ยกตัวอย่างไปตอนแรกแล้วว่าทำดี ต่อตัวเองก็ได้ ทำดีต่อครอบครัวก็ได้  ทำดีต่อสังคม ต่อประเทศชาติก็ได้  เป็นการทำดี เพื่อพ่อทั้งนั้น ตราบใดที่สิ่งที่ทำไปนั้น ทำให้พ่อ เมื่อได้รู้ ได้ยินแล้ว มีความสุข รวมความ ก็คือให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อพ่อ วันนี้รวมแม่ด้วย รวมหมดล่ะ พ่อแม่เลยล่ะ ก็คือพูดง่ายๆ ก็คืออยู่ เพื่อคนที่เรารัก

คนที่เรารัก ผมจะบอกให้ มันควรจะเกิดจากเขารักเราก่อน แล้วเราทนไม่ไหวแล้ว เข้าใจไหม? ทนไม่ไหว จนสุดแล้ว กลับกลายเป็นเรารักนั่นแหละ รักไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปรักแรกพบ ไม่ไปเจอกันเลย อะไรอย่างนั้น  โอกาสเปลี่ยนแปลงมันมีเยอะ รักแบบที่เรารักเขามาก เขาเสียสละเพื่อเรา … เราไม่ไหวแล้ว แย่แล้ว แย่อะไร? ต้องรักเขาแน่ๆ อย่างนี้มันรักแท้ ใช่ไหมครับ?

จะมีชีวิตอยู่ เพื่อคนที่เรารัก มันจะเป็นกำลัง เป็นแหล่ง เป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเรา ดังนั้น เขาจะอยู่เพื่อคนๆ นี้ เขาบอกว่าบางทีเราอาจจะไม่ได้อยู่เพื่อตัวเราเอง บางครั้งเราเกลียดตัวเอง บางครั้งเราเกิดความเครียด เราก็เบื่อตัวเอง  เราเกิดซึมเศร้า แล้วก็ไม่ชอบตัวเอง หลายครั้งเราโกรธตัวเอง ที่เราทำอะไรไม่ดีไป ถูกไหม? เราอาจจะทำร้ายตัวเองก็ได้ ถูกไหม? แต่ถ้าเรามีใครคนหนึ่งที่เรารักมากๆ เทิดทูนมากๆ เราอยากให้เขามีความสุข เราจะทำอะไรให้เขามีความสุข เราจะทำอะไร? เราคิดก่อน ตัวเราอะไรก็ได้ แต่เพื่อเขา เราอดทน พอเข้าใจใช่ไหมครับ? มันจึงเป็นแหล่งพลังงานที่บอกไม่ถูก มันลึกลับ มันอยู่ในใจของผู้คนนั้น ที่มีสิ่งนี้เกิดขึ้น

เพราะถ้าบอกว่าให้ทำเพื่อตัวเอง  สมมติบอกว่าให้ทำดี เพื่อตัวเอง บางครั้ง บางคนก็ไม่ได้รักตัวเองหรอก แม้ไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ไม่รักตัวเอง  เพราะอะไรไม่รู้เนอะ หลายคนที่หลงไปทำสิ่งที่ชั่วร้าย สิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นผลร้ายต่อตัวเองนั้น ก็เพราะอะไร? ก็เพราะเขาไม่คิดว่าเขาจะรักตัวเอง ไม่มีกำลังพอที่จะกระทำดีได้ เพราะอาศัยการรักตัวเอง

บางคนบอก “ทำดีนะเหรอ ออกกำลังกายให้มันแข็งแรง เพื่อตัวเองจะได้มีชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง ฉันก็เป็นอย่างนั้น มันต้องรอชาติหน้าก็แล้วกัน เกิดใหม่อีกหลายครั้ง คงทำไม่ได้”

แต่ถ้าบอกว่า “ถ้าคุณไม่สบาย  คนที่รักคุณ พ่อแม่คุณจะต้องเสียใจมาก”

จะมีกำลังขึ้นมาทันที นี่ยกตัวอย่างง่ายๆ พูดกันเล่นๆ นะ ถ้าเราอยู่เพื่อพ่อแม่ อยู่เพื่อคนที่เรารัก อยู่เพื่อคนอื่น  เพราะรู้ว่าเขารักเรา รักเราก่อนด้วย  เราก็จะมีกำลังอย่างมหัศจรรย์ขึ้นภายใน และมีความอดทนได้มากขึ้น สามารถที่จะควบคุมตัวเอง และตั้งใจพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด ที่บางครั้งตัวเองก็ไม่ชอบด้วย  แต่ทำเพื่อคนๆ นี้ เราทำได้ เพื่อทำให้คนที่เรารัก มีความสุข มีความปลาบปลื้มใจ นี่คือเคล็ดลับในวันนี้ เคล็ดลับอยู่ตรงนี้ อยู่เพื่อคนที่เรารัก อยู่เพราะเห็นว่าเขารักเรา อยู่เพราะทดแทนพระคุณความเมตตาของเขา

พูดถึงตรงนี้แล้ว นึกถึงคำพูดของอาจารย์เปาโล อาจารย์เปาโลเข้ามาลึกซึ้งกับพระเจ้ามาก เมื่อพระเจ้าพาไปอยู่ในสวรรค์ชั้น 3 กี่วันไม่รู้ แล้วก็ลงมาจากสวรรค์ เห็นสวรรค์หมดแล้ว ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว แต่คำหนึ่งที่เปาโลพูดเพราะมากเลย คืออะไรรู้ไหม? ท่านอาจจะไม่ได้สังเกต แต่วันนี้ มันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เลยพูดให้ท่านได้เห็น สังเกตดู เปาโลบอกว่าอะไร?

บอกว่า “ถ้าให้ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าเลือกที่จะไปอยู่กับพระเจ้าดีกว่า ไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้แล้ว”

แล้วว่าแต่ข้าพเจ้ายังต้องอยู่บนโลกใบนี้ เพื่อใคร? เพื่อตัวเองเหรอ ไม่ใช่ ตัวเองบอกอยากไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว แต่ถามว่าเพื่อใคร? เพื่อท่านทั้งหลาย หมายถึงผู้คนบนโลกใบนี้ เพื่อคริสเตียน เพื่อคนที่ไม่เชื่อ ที่พระเจ้าจะนำเปาโลไปสอน เพื่อพระเจ้าต่อไป  เปาโลบอกจะทนอยู่ตรงนี้ ทั้งๆ ที่ไปเห็นสวรรค์มาแล้ว จะทนอยู่อย่างนี้เพื่อใคร? เพื่อเขาเหล่านั้น อยู่บนโลกนี้ทำไม? สุขใจ สบายดีเหรอ ทรมาน ถูกเขากลั่นแกล้ง ข่มเหง ทุกข์ทรมานจะตาย แต่บอกอยู่ได้ เพราะอะไร? เพราะอยู่เพื่อเขา อย่างนี้เป็นต้น อยู่เพื่อเขา ไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง ถ้าอยู่เพื่อตัวเอง ไม่เอาดีกว่า ไปดีกว่า อย่างนี้เป็นต้น

ถ้าเรามีชีวิตอยู่เพื่อคนที่รักเรา  และมีพระคุณต่อเรา ก่อนจะทำอะไร เราก็จะคิดก่อนว่าทำสิ่งนี้แล้ว พระเจ้า พ่อเรา แม่เรามีความสุขไหม? ในหลวงมีความสุขไหม? ถ้าเราทำอย่างนี้ ถ้าเราขับรถ ไม่มีกฎจราจรเลย เขาฝ่าฝืนมัน เรื่อยเปื่อยอย่างนั้น พ่อหลวงเราจะมีความสุขไหม?  ถ้าเราทำข้าราชการเช้าชาม เย็นชาม ไม่ทำงานทำการ มีช่องโหว่ที่ไหน ก็จะหารายได้เข้าสู่ตัว อะไรอย่างนี้ พ่อเรารู้จะมีความสุขไหม?  อย่างนี้เป็นต้น ถ้าเราโลภ คิดว่าพ่อมีความสุขไหม?  ถ้าเราไม่ดูแลสุขภาพ กินอาหารไม่ระวัง ปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรม พ่อจะมีความสุขไหม?  แต่ถ้าเราหมั่นออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพอย่างดี พ่อจะดีใจไหม?  กินผักบ้าง? พ่อพูดมาตั้งหลายครั้ง กินปลา กินผัก ไม่กินสักที บางครั้งมันเลี่ยนมาก เพราะอะไร? เพราะตัวเองไม่อยากกิน ไม่ชอบ ถูกไหม? แต่ได้ยินเสียงพ่อ ถ้ากินผักให้พ่อเห็น พ่อจะยิ้มเลย กินสักหน่อย ไม่ใช่กินนิดหนึ่ง แล้วเอาไปคายทิ้ง ไม่ใช่อย่างนั้นนะ หมายถึงกินจริงๆ เข้าใจนะ มันได้ตัวเราเองด้วย แล้วพ่อมีความสุข อย่างนี้ เห็นไหม? มันก็มีกำลังที่จะชนะตรงนั้นได้ แม้ว่ามันจะแหยะๆ ขมๆ ในที่สุด เพื่อพ่อเพื่อแม่เรา เราทำได้ เรากินได้ อะไรอย่างนี้ เป็นต้นนะครับ

ตัวอย่างที่พูดมาทั้งหมดนี้ มีอะไรที่ทำให้พ่อของเราบ้าง? ตะกี้ที่พูดมา ไม่มีเลย พ่อเราไม่ได้รับอะไรเลย กินผัก พ่อเราก็ไม่ได้แข็งแรงไปด้วย ออกกำลังกาย พ่อเราก็ไม่ได้แข็งแรงไปด้วย ไม่มีเลย ทำให้ตัวเองทั้งนั้น ดูแลสุขภาพตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตัวเองได้ดีเองทั้งนั้น พ่อไม่ได้รับอะไรเลย แต่สิ่งที่ตัวเองได้ดีนั่นแหละ คือสิ่งที่ทำให้พ่อมีสุข เพราะพ่ออยากให้เรามีชีวิตที่ดี

นี่คือสิ่งที่พระเจ้าก็ต้องการเหมือนกับเรา  ที่เป็นพ่อ เป็นมนุษย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็พระประสงค์อย่างนี้เหมือนกัน อยากให้คนไทยมีความสุข ให้อยู่อย่างพอเพียงอย่างนี้  เป็นอย่างนี้ การเป็นอยู่อย่างพอเพียง พระองค์ท่านก็ไม่ได้อะไรกับที่เราอยู่หรอก แต่ว่าพอรู้ ก็มีความสุข อย่างนี้เป็นต้น เพราะเรามีความสุขด้วย

ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง ชีวิตของผมเอง ย้อนไปตั้งแต่สมัยผมเป็นวัยรุ่น ตอนเริ่มเล่นดนตรี ย้อนไปตอนเรียนอยู่มัธยม เป็นคนที่ชอบเล่นดนตรีมาก ตั้งวงดนตรีกับเพื่อน แล้วก็ไปประกวด ได้รางวัลมา ก็เป็นรางวัลระดับนักเรียนเล่น มันก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรมากมาย เป็นนักเรียนสมัครเล่น อะไรประมาณนี้แหละ

จุดเปลี่ยนของชีวิตผมเกิดขึ้นตอนนี้แหละ ประกวดแล้วได้รับรางวัล ก็เป็นช่วงที่เรียนจบมัธยมพอดีเลย  แล้วก็ต้องสอบเอ็นทรานซ์ เข้ามหาวิทยาลัย สอบติด แต่เพื่อนๆ ในวงหลายคน ที่เล่นดนตรีด้วยกัน เขาสอบไม่ติดกัน แล้วด้วยความที่ผมและพวกรักในการเล่นดนตรีอยู่ ก็เลยตัดสินใจเอาดีทางดนตรีให้ได้ ในตัวผมคิดเองนะ แล้วก็ไปเริ่มปรึกษาพ่อ ท่านคิดดูว่าผมน่าจะไปปรึกษาพ่อไหมตอนนั้น ตอนเรียนอยู่มัธยม ไปสายจนกระทั่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน เขาเชิญผู้ปกครอง เขาเตือนอยู่แล้ว ที่มันสายเพราะอะไร?  เพราะมันซ้อมดนตรีดึก มันอดไม่ได้ เล่นกีต้าร์ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงตี 1, ตี 2 นั่งเล่น เดินเล่น หลับตานึกว่าเล่นอยู่ในวงดนตรี ซ้อมแบบจริงจัง มือเลือดไหลเลยนะบางที เล่นกีต้าร์จนเลือดไหล สมัยก่อนมันไม่มีอุปกรณ์อะไรมากมาย เหมือนเดี๋ยวนี้นะ ไม่ได้ไปทำอะไรเกเรเลย เล่นดนตรีมันดึกดื่น แล้วทำไม มันก็ตื่นสาย พอตื่นสายก็รีบๆ ไปโรงเรียน มันก็เกือบทันทุกทีเลย มันวันละนิดวันละหน่อย เขาก็เตือน เตือนในที่สุด เขาก็ต้องส่งหนังสือไปเชิญผู้ปกครองมา เป็นเรื่องน่าอับอายของบรรดาผู้ปกครองที่จะมาฟังเรื่องนี้

“นครมาสาย ถ้ามาสายอีกต่อไป เขาจะคัดชื่อออกจากโรงเรียนเลย”

นึกออกใช่ไหมครับ? สมัยนั้นเป็นอย่างไร? ก็ไปปรึกษาพ่อว่าพอจบมา สอบติดนะ คิดดูในสมัยนั้น ท่านคิดดูว่านักดนตรีในสมัยนั้น 40 กว่าปีที่แล้ว นักดนตรีสมัยนั้น ไม่เหมือนสมัยนี้นะ สมัยนี้นักดนตรีมีเกียรตินะ มีชื่อเสียงนะ มองดูว่ายังเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่สมัยนั้น เขาถือว่าไม่มั่นคง เต้นกิน รำกิน แล้วมันไม่มีอนาคตเลย ไว้ผมยาว แบบไม่ค่อยจะมีอนาคต ไม่เหมือนศิลปินยุคนี้

จำได้ตอนนั้นไปปรึกษาพ่อ พูดกับพ่อครั้งแรกว่า.-

“ผมจะสละสิทธิ์มหาวิทยาลัยที่สอบติด แล้วจะพักเรื่องเรียนหนังสือสักปีหนึ่งซะก่อน อยากออกมาเล่นดนตรี”

ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร? วัยขนาดนั้น  ให้ทายว่าคุณพ่อเห็นด้วยไหม? ปฏิกิริยาครั้งแรก ท่านไม่เห็นด้วยหรอก แต่ไม่ตอบอะไร? ในสิ่งที่ผมพยายามจะแบ่งปันให้กับพ่อกับแม่ว่ามันคืออะไร? ท่านยังมองไม่เห็น แล้วอย่างไรรู้ไหมครับ? แล้วเมื่อได้คุยกัน พ่อบอกนึกไม่ออก ไม่เห็นภาพเลย แล้วจะไปทำดนตรี ไปเล่นอะไร? สมัยก่อนไม่มีการว่าเล่นคอนเสิร์ต ไม่มีนะ เขาเรียกว่าไปแสดงดนตรี สมัยก่อนนี้ ไปทำมาหากินอะไร? ไปแสดงดนตรีหากิน มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีอนาคต พูดง่ายๆ แล้วจะไปเล่นดนตรี แล้วไปเล่นอย่างไร? เล่นที่ไหน? หากินอย่างไร? ไม่มีวี่แววว่ามันจะเป็นไปได้ เพราะฉะนั้น แต่เขาก็ไม่เอะอะโวยวาย แล้วก็ฟังดู แล้วเขาก็มาคุยกัน เอาไปคิดดูอีกที แน่ใจเหรอ คิดดูอีกที แล้วมาคุยกันแล้วกัน ประมาณอาทิตย์ สองอาทิตย์ก็ต้องรีบตัดสินใจ เพราะว่าก่อนที่เขาจะไปมอบตัวที่มหาวิทยาลัย จะต้องตัดสินใจ เมื่อมาคุยกัน พ่อก็เห็นความตั้งใจของผม ในที่สุด  เราก็พบกันครึ่งทาง ตกลงกันอย่างนี้ว่าขอเวลาหนึ่งปี พ่อให้หนึ่งปี เราก็โอเค หนึ่งปีเหมือนดร๊อปไว้ ไม่ไปเรียนหนังสือแล้ว ไม่เรียน จะไปเรื่องดนตรีใช่ไหม? อยากเล่น ไปเล่นเลย หนึ่งปี ถ้าหนึ่งปีผ่านไป พิสูจน์ว่ามันไม่สำเร็จ เลิก โอเคไหม? กลับมาเรียนเหมือนเดิม ผมก็บอกโอเค ตกลงกันอย่างนั้น เห็นไหม? พ่อที่มีสติปัญญา พ่อที่มีความเข้าใจลูก ก็ต้องทำกันอย่างนี้  ถ้าผมพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ ก็เลิก ผมเองก็ตั้งใจอย่างนั้นนะ ถ้าไม่ได้ ก็เลิก ก็มันไม่ได้จริงๆ จะไปทูซี้ทำไม?  ท่านนึกออกไหมครับว่าสมัยโน่น สอบติดมหาวิทยาลัย แต่ไม่ยอมไปเรียน หัดมาเล่นดนตรี มันเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมากเลยนะ ไปพูดให้ใครฟัง น่าเกลียดจริงๆ บอกมาเล่นดนตรี … ดนตรีตอนนั้น มันมีวี่แววเป็นอาชีพอะไรเลยนะครับ ผู้ใหญ่รับไม่ได้ด้วย ผู้ใหญ่ดูเราเหมือนคนสกปรก ผมยาวๆ รุงรังๆ

ซึ่งผมก็เชื่อว่าพ่อผมตอนนั้น ก็ต้องคิดอย่างนี้เหมือนกัน คือเป็นห่วง เป็นห่วงอนาคตของลูก แต่เมื่อเห็นว่าลูก คือผมตอนนั้น รักสิ่งนี้จริงๆ ตั้งใจจะทำสิ่งนี้จริงๆ ก็เลยเชื่อมั่นในตัวลูก เชื่อมั่นว่าอะไร ว่าเขาทำได้ ไม่ใช่ เชื่อมั่นว่าเขาตั้งใจดี มันก็ไม่ได้เสียอะไร? ก็ให้เขาลองไปสิ ยอมทั้งๆ ที่เป็นห่วง  ยอมทั้งๆ ที่ใจจริงอยากให้ลูกไปเรียนหนังสือดีกว่าตั้งเยอะ คงจะเตรียมแผนการอะไรเยอะว่าจะให้ทำอะไร เป็นอะไรต่อไป

นี่หลังจากที่ตกลงกันอย่างนั้นแล้ว พ่อผมก็กลายเป็นนักสำรวจเส้นทางดนตรีอาชีพ ที่ผมพยายามจะตั้งฉายานี้ ฉายาตำแหน่งของพ่อ ตอนนี้เพิ่งหามาตั้งได้ คือเก่งจริงๆ ยกนิ้วให้เลย  พ่อเอาหนังสือเกี่ยวกับดนตรีทั้งหมด ไม่ว่ายุคไหนๆ ยุคโน้น บีทเทิล โรลลิงสโตนส์ ยุคไหนๆ เรียนรู้ทั้งหมดเลย เพราะพ่อผมเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ปกติ อ่านหนังสือเยอะแยะมากมายอยู่แล้ว อ่านหนังสืออะไร ดาราศาสตร์ เยอะแยะ เที่ยวนี้หยุดหมดทุกอย่าง มาเรียนเพื่อลูกอย่างเดียว เรียนอะไร? เรียนดนตรี ไม่ใช่เรียนเล่นดนตรีนะ เปิดดูว่ามันเป็นอาชีพได้ไหม?  มันเล่นอะไรกัน ผมเล่นดนตรีอยู่ ก็มาถามผม

“ของวงดนตรีอะไร?”

ผมถามว่า “จะไปรู้ทำไมพ่อ”

“เอ้อ! น่าเอามาให้ดูแล้วกัน”

คือขอชื่อเท่านั้นเอง แต่ก่อนมันไม่มี google แบบนี้นะ ท่านเข้าใจไหมครับ? มันไม่มี google อย่างนี้ แต่พ่อ พอเอาชื่อมาปุ๊บ  ไปศึกษาหมดว่าที่ผมเล่นดนตรีนี้ วงดนตรีร็อค … ร็อคอะไร? วงอะไรต่างๆ มันเกิดขึ้นอย่างไร?  เขาเล่นดนตรีกันอย่างไร?  เขามีอาชีพอยู่กันอย่างไร? เวลามันจะมีปัญหา ในวงมีปัญหาเพราะอะไร? บอกละเอียดยิบ แล้วก็เขียนเป็นตำราให้ผมว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ๆ เสร็จแล้ว เลยไปหลายเดือน มาคุยกับผมบอกว่า.-

“ตั้งใจทำให้ดีๆ นะ ที่ลูกทำอยู่นี้ มันเป็นอาชีพได้อย่างดีเลย ในอนาคตมันจะไปได้ไกลมากเลย ในเมืองไทย”

แล้วก็ผมก็เป็นนักดนตรี แล้วก็เริ่มเล่นอาชีพแล้ว มีคนมาจ้างให้เล่น ก็เล่นในกรุงเทพ ในที่สุด มีคนมาติดต่อไปเล่นที่จังหวัดนครพนม ให้กับทหารอเมริกัน ในแคมป์ทหารที่นครพนม เป็นสถานพัก ที่จะส่งทหารไปรบที่เวียดนาม ทหารพักก็มาที่นี่ แล้วก็มาเที่ยวกัน เราก็ไปเล่นดนตรีให้เขาฟัง ซึ่งท่านคิดดูนะครับ ก็ตกลงไป เด็กหนุ่มๆ ไปอยู่ที่นั่น  อยู่ต่างหาก มีอิสรภาพ เสรีภาพทุกอย่างเลย  แล้วเมืองทั้งเมือง มันเป็นเมืองที่มีทหารทั้งนั้น ทุกอย่างเงินสะพัดทุกอย่างเลย แล้วก็ไม่ใช่เงินสะพัดอย่างเดียว อบายมุกสะพัดหมด ทุกอย่าง มีหมดทุกชนิด ตั้งแต่เรื่องเหล้า ยา … ยาจริงๆ นะ หมายถึงยาเสพติด ผู้หญิง มีเยอะแยะไปหมดทุกอย่าง แล้วเราเด็กหนุ่มๆ ไปอยู่ที่นั่น  พ่อแม่ก็เป็นห่วง  ถูกไหม? ก็เป็นห่วง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร?  ก็ลูกมาถึงเส้นทางนี้แล้ว จะทำอย่างไร?

แล้วพ่อเริ่มต้นเขียนจดหมายครับ จดหมายมันไม่เหมือนกับอีเมล์สมัยนี้ ท่านต้องพิมพ์ดีด ไม่ใช่ลายมือเขียน กลัวจะอ่านไม่ออก พิมพ์ดีดทีละปึกหนึ่ง ปึกหนึ่งมีประมาณ 10 กว่าแผ่น เป็นปึกนะ พิมพ์ดีด แล้วก็สอนผมในจดหมายนั้น อาทิตย์หนึ่ง 1 ฉบับ … ฉบับหนึ่งมีประมาณ 10 กว่าแผ่น บอกให้หมดเลยว่าต้องเป็นอย่างไรบ้าง? เรื่องโน้นเรื่องนี้ ตั้งแต่เรื่องการอยู่ การกิน การระวังตัว รวมถึงการเล่นดนตรี  และวิชาการดนตรีต่อไปด้วยในอนาคตควรจะเป็นอย่างไร?

ท่านคิดดู นี่คือการสำแดงความรักของผู้ที่เป็นพ่อ ถ้าเขาไม่รักเราจริง เขาไม่สำแดงอย่างนี้ เราจะสัมผัสความรักเขาไหม? ได้แต่บอกรักเหรอ แล้วมากกว่านั้น อะไรรู้ไหมครับ? ผ่านไป 4 เดือน เป็นห่วงมาก แม้เขียนจดหมายแล้วยังเป็นห่วง ทำอย่างไรรู้หรือเปล่า? เดินทางไปนครพนม เดินทางไปนครพนม 2 คนพ่อกับแม่ ลำบากลำบนมาก สมัยก่อนนี้ ถ้าจะไปนครพนม มันสุดโน่นเลย ชายแดน จะข้ามไปอีกนิด ก็ถึงลาวแล้ว ยากมาก เดินทางไปลำบากลำบน คนอายุมากแล้วด้วย  พอไปดูการเป็นอยู่ของเราที่นั่น ยิ่งเป็นห่วง กลับมา เป็นห่วงใหญ่เลย แย่แล้ว ลูกเราสงสัยไม่รอด ตายแน่ๆ หมายถึงว่าดูการเป็นอยู่แล้ว ลำบากมาก ลำบากในที่นี่ หมายถึงในอบายมุกทั้งหมด กลัวมากว่าลูกจะเป็นอย่างนั้น

ความรักที่พ่อสำแดงให้กับเราก่อน และความรักตัวนี้ จึงทำให้ผม เวลาจะทำอะไร ตัวเองไม่กลัว เพราะเรายังวัยรุ่น เราไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร? เรากำลังสนุก แต่สิ่งหนึ่งที่ดึงผมไว้ ก็คือพระคุณ ความรักของพ่อและแม่ที่ให้กับผมก่อน เราจึงจะทำอะไร ไม่อยากทำ ให้เขาเสียใจ ไม่อยากจะทำให้เขาเป็นห่วง อยากทำให้เขามีความสุข เห็นไหม?  ผมจึงได้สิ่งนี้มา มันได้สิ่งนี้มา

มันตรงกับสิ่งที่กำลังคุยกันในวันนี้ว่ารัฐบาลเขายังพยายามรณรงค์ในเรื่องนี้ว่าทำดี เพื่อพ่อ คือทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้พ่อมีความสุข เพราะถ้าบอกว่าไปทำโน่นทำนี่ บางทีเราไปอยู่ตรงโน้นแล้ว เราไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร?  แต่รู้เลยว่าทำสิ่งนี้ แล้วพ่อจะมีความสุขไหม ถ้าเราทำอย่างนี้

พอเราไปเสพยา ถ้าเราไปลอง แล้วพ่อเราจะมีความสุขไหม? อะไรอย่างนี้ เห็นไหม?  มันก็เลยรอด เพราะไม่ใช่ตัวเองดี ไม่ใช่ตัวเองเก่ง แต่รอด เพราะความรักของพ่อของแม่ สำแดงให้ผมเห็นก่อน จนผมทนไม่ไหว ทนไม่ไหวจึงต้องตอบแทนพระคุณของท่าน โดยการมอบชีวิตให้ท่าน เป็นสิ่งที่ดีให้กับท่าน เป็นที่สบายใจของท่าน

นี่คือเรื่องเดียวกัน อยากจะเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ท่านฟัง จริงๆ มีเยอะมากมาย จริงๆ เอามาสอนเดี๋ยวนี้ได้ ให้ทั้งพ่อและแม่เดี๋ยวนี้ได้รู้ว่าสิ่งใดบ้างที่เราสามารถที่จะสำแดงความรักของเราต่อลูกของเราได้

นี่คือตัวอย่างของคนที่เป็นพ่อ ที่เป็นมนุษย์เท่านั้น ที่สมควรจะได้รับการทดแทนพระคุณ จากลูกๆ ด้วยการที่ลูกเป็นคนดี เป็นคนที่กตัญญู รู้คุณต่อพ่อแม่ เชื่อฟังพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ในยามแก่เฒ่าด้วย และทุกอย่างที่ทำเพื่อท่านนั้น  เพื่อว่าท่านจะได้มีความสุข คิดอยู่แค่นี้เอง

แล้วมากกว่านั้นสักเท่าใด? ที่มหากษัตริย์ของเรา คือในหลวงของเรา ผู้ทรงเหน็ดเหนื่อย เพื่อพสกนิกร สมควรจะได้รับการทดแทนพระคุณ จากประชาชนชาวไทย ด้วยการประพฤติตนให้เป็นคนดีของสังคม และทำทุกสิ่ง เพื่อให้ในหลวงของเรา ทรงเกษมสำราญ มีความสุข เหมือนกัน ถูกไหม? นี่คืออยู่ในใจเราเลยแหละ จำอะไรไม่ได้ รู้ทันทีเลยว่าเราจะทำสิ่งนี้แหละ ในหลวงมีความสุขไหม?  ถ้าในหลวงมีความสุข ทำเลย  ถ้าในหลวงไม่มีความสุข หยุดๆ เพราะเรารักท่าน

และมากกว่านั้นสักเท่าใด? ที่พระเจ้าพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ผู้ทรงรักและเสียสละต่อเราอย่างมาก ถึงขนาดยอมเสียสละพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อให้เราได้รับชีวิตนิรันดร์ และเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการทดแทนพระคุณ จากพวกเราทุกคน ที่เป็นคริสเตียน ที่มาได้รับความรอดในพระเยซูคริสต์แล้ว โดยการมอบถวายชีวิตของเรา เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอยู่แด่พระองค์ ให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ ก็คือให้เป็นที่สุขใจของพ่อเรา คือพระบิดา

โรม 12:1-2 เราอ่านข้อนี้ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ให้มันจำอยู่ในหัวของเราเลยว่าถ้าเรารักพ่อ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ประทานพระเยซูคริสต์ให้กับเรา หรือเป็นพ่อหลวงของเรา หรือเป็นพ่อแม่ในครอบครัวของเราก็ตาม พระคัมภีร์ข้อนี้ ก็ยังใช้ได้เสมอ ทำให้พอพระทัย หรือทำให้ท่านมีความสุขนั่นเอง อ่านพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง

โรม 12:1-2  “1 เหตุฉะนั้น  พี่น้องทั้งหลาย  เมื่อพิจารณาถึงพระคุณ  ความเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง 2 อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์ และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัย และสมบูรณ์พร้อมของพระองค์”

 

“อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ เปลี่ยนทางของท่าน ให้เป็นทางของพระเจ้า ที่จะทำให้พระองค์มีความสุข”

เอเมน … ขอพระเจ้าอวยพรครับ

 

***********************