คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2018 เรื่อง “พระเจ้าสถิตอยู่ด้วยตลอดเวลา” โดย นคร เวชสุภาพร

คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2018

เรื่อง “พระเจ้าสถิตอยู่ด้วยตลอดเวลา”

โดย นคร  เวชสุภาพร

            สวัสดีครับ แป๊บเดี๋ยวผ่านไปอีกแล้ววันครอบครัว วันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย ก็ผ่านไปอีกแล้วนะ วันเวลาผ่านไปรวดเร็ว ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า Time fly when we have fun. เมื่อชีวิตมีความหวัง มีสันติสุข มีความสงบสุข มันสนุกกับชีวิต เวลามันผ่านไปรวดเร็ว ถูกไหม? พอเรามีพระเยซู เรามีความหวังในชีวิต เรารู้ว่าเราดำเนินไปไหน? เรารู้จักความตายดี เรารู้จักเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดา และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นชัยชนะของเรา เห็นหนทางของเราที่จะนำเราไปสู่ความหวังนิรันดร์ในสวรรค์สถานที่เราจะอยู่กับพระเจ้าหลังชีวิตบนโลกใบนี้ เอเมน

พอมีความหวังอย่างนี้ อะไรก็รับได้หมด มันได้เปรียบนะ คนที่มาเชื่อพระเจ้า มันได้เปรียบมากเลย คือ …

(1) เรามีความหวังในชีวิตข้างหน้า แม้เราอาจจะกลัวความเจ็บป่วย กลัวความตายบ้าง แต่จะกลัวอย่างไร ก็มีความหวังหลังจากนั้น มันก็เลยกลัวไม่เยอะ ไม่มาก นี่อันหนึ่ง ซึ่งสำคัญมากอยู่แล้ว

(2) ขณะที่อยู่บนโลกใบนี้ เมื่อเราเชื่อพระเจ้า เรามีตัวช่วย พระเจ้ามาสถิตอยู่กับเราตลอด ทุกหนทุกแห่ง เราจะรู้หรือไม่รู้ เราจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ เมื่อเราเชื่อพระเยซู พระเยซูและพระเจ้ามาสถิตอยู่กับเรา ไปไหนกับเราอยู่ตลอดเวลา แม้เราจะไม่เข้าใจว่าทำไมบางครั้ง ปล่อยอย่างนี้ๆ แต่พระองค์บอกสถิตอยู่ด้วย และหลายครั้ง เราก็ได้รับการอัศจรรย์ ไม่ว่าเล็กหรือน้อย ทุกคนได้หมด บางก็นิดเดียว บางทีก็ใหญ่บ้าง บางทีก็น้อยบ้าง แต่เราก็ไม่เข้าใจ อะไรบางอย่างเราอยากได้ ทำไมไม่ได้ แต่ในที่สุด เราก็จะรู้ว่ามีหลายครั้ง เรายิ้มแย้ม พระเจ้าอยู่กับเรา เห็นไหม? ตัวช่วยพิเศษ อยู่บนโลกใบนี้ พระเยซูบอกจงดูนกในอากาศ

กลัวว่าเศรษฐกิจจะแย่ ไม่มีอะไรจะกิน พระเจ้าบอกว่าดูนกในอากาศสิ พระเจ้ายังเลี้ยงเลย แล้วเธอล่ะ ลูกพระเจ้า พระเจ้าอยู่กับเธอ จะอดตายไหม? ตอบว่าไม่ตาย แต่ดูเหมือนอดตาย เรานึกว่าอด จริงๆ ไม่อด มันยังมีอยู่เยอะแยะ แต่เราอยากได้เยอะกว่านั้น ใช่ไหม? แล้วพระเจ้าบอกอะไร? เราจะอยู่กับเธอตลอดเวลา ไม่ทิ้งไปไหนเลย ไม่ต้องกลัว เห็นไหม?

เราก็บอก … “พระเจ้าอยู่ไหน?”

พระเจ้าก็บอก … “อยู่ตลอดเวลา ไม่ทิ้งไปไหน จะอยู่กับเธอตลอดเวลา ปกป้องดูแลเธอ”

อย่างนี้ คือความได้เปรียบของคนที่มาเชื่อในข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ 2 อย่างนี้ ก็พอแล้วนะ ชีวิตบนโลกใบนี้  มีตัวช่วยอยู่ตลอดเวลา ไปไหน พระเจ้าไปด้วย คุ้มครองป้องกันภัยให้เราตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะอธิษฐานหรือไม่อธิษฐาน ก็ป้องกันเราตลอดเลย  พระคัมภีร์บอกไว้อย่างนั้น ไม่ไปไหนเลย

เมื่อจากโลกนี้ไป เตรียมพร้อมเลย จบข่าวซะที จบทุกอย่างแล้ว ไปสู่การพักนิรันดร์ การพักสงบนิรันดร์ กลับบ้านของเรา อยู่ในสวรรค์สถานนิรันดร์ จบแล้ว มันก็มีความหวังไง  Time fly when we have fun. เมื่อชีวิตมีความหวัง มีความสนุกสนานอย่างนี้ มันก็เลย เวลาผ่านไปเร็ว แป๊บเดียว นี่จะเดือนที่ 5 แล้ว    อีก 4-5 เดือน  เราก็จะไปค่ายกันอีกแล้ว  อะไรจะขนาดนี้  เที่ยวกันทั้งปีเลยเหรอ  อะไรเดี๋ยวจะเที่ยวกันอีกเหรอ  เดี๋ยวก็ฉลองตรุษจีน  เดี๋ยวก็ฉลองอีสเตอร์ เดี๋ยวก็ฉลองสงกรานต์  เดี๋ยวก็ไปค่ายอีกแล้ว กลับมาจากค่าย  เดี๋ยวฉลองขอบคุณพระเจ้าอีกแล้ว  เดี๋ยวจะฉลอง คริสตมาส  เดี๋ยวก็ฉลองปีใหม่อีกแล้ว วนเวียนอยู่อย่างนั้น เร็วเหลือเกินเวลาของเรา  Time จึง Fly เวลาจึงบินไป  เอเมน

ทั้งหมดนี้ พระเยซูทำให้กับเราเรียบร้อยไปแล้ว ที่ไม้กางเขน เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว พระองค์บอกสำเร็จแล้ว จบแล้ว พระเยซูบอกว่าด้วยฤทธิ์เดชอำนาจพระโลหิตพระเยซูที่หลั่งที่ไม้กางเขน เราคือมนุษย์ทั้งปวง ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากตำหนิใดๆ บริสุทธิ์ ใช้คำเดียวกับคำว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ ใช้คำเดียวกันเลยนะ ศัพท์เดียวกันเลย ด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งพระโลหิตพระเยซู ที่ได้หลั่งที่ไม้กางเขน ได้ชำระล้างมนุษย์ เผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนให้สะอาดบริสุทธิ์ปราศจากตำหนิใดๆ พ้นจากบาปทั้งปวง เป็นผู้ชอบธรรม สามารถมาอยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า อาณาจักรสวรรค์ของพระเจ้าร่วมกับพระเจ้าได้ เพราะต่างฝ่ายต่างสะอาด

พระเจ้าบอกว่า … “เราบริสุทธิ์ เจ้าต้องบริสุทธิ์ บัดนี้ เจ้าบริสุทธิ์แล้ว”

พระเจ้าไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่บอกว่า … “เราบริสุทธิ์ ถ้าเจ้าจะอยู่กับเราได้ เจ้าต้องบริสุทธิ์ และเราจะทำให้เจ้าบริสุทธิ์เอง เจ้าไม่สามารถทำตัวเองให้บริสุทธิ์ได้เหมือนเราหรอก เราจะเป็นผู้ช่วยเจ้า โดยส่งพระเยซูคริสต์มาตายที่ไม้กางเขน ให้หลั่งพระโลหิต พระโลหิตมีฤทธิ์เดชอำนาจ พระคัมภีร์บอกว่าพระโลหิตพระเยซู มีฤทธิ์เดชอำนาจที่จะชำระล้างวิญญาณ หรือจิตใจมนุษย์ให้บริสุทธิ์ เหมือนพระเจ้า”

เมื่อเราเหมือนพระเจ้า พระเจ้าบอก เราบริสุทธิ์ เจ้าต้องบริสุทธิ์ ก็สำเร็จเสร็จสิ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างบริสุทธิ์ ก็อยู่ด้วยกันได้ เป็นครอบครัวเดียวกันในสวรรค์สถานนั่นเอง  เอเมน

เพราะฉะนั้น ใครบริสุทธิ์แล้วยกมือขึ้น?  แสดงว่าผู้คนเหล่านี้ใช้สิทธิของเขา ใช้ความเชื่อในฤทธิ์เดชอำนาจแห่งพระโลหิตพระเยซูคริสต์ไปแล้ว สำหรับคนที่ไม่ยก ไม่ผิดนะ แสดงว่าเขายังไม่ได้สิทธิเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร ไม่ได้ต่างกันตรงไหนเลย เขาก็ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์เหมือนพระเจ้า โดยพระเยซูคริสต์ไปแล้ว แต่เขายังไม่ได้ใช้สิทธิของเขา เมื่อไม่ใช้ เขาก็เลยบอกว่าเขายังไม่ได้ ก็ถูกในอีกแง่มุมหนึ่ง เพราะฉะนั้น คนที่ยกมือ ก็คือคนที่มั่นใจและเชื่อในฤทธิ์เดชอำนาจแห่งพระโลหิตแห่งพระเยซูคริสต์ไปแล้ว จึงได้รับการชำระในวิญญาณ สะอาดหมดจด ใช้คำว่า “บริสุทธิ์” คือ “Holy” เหมือนใคร? เหมือนพระเจ้า ปราศจากตำหนิใดๆ ปราศจากตำหนิเลย เหมือนที่เราบอกว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ปราศจากตำหนิ มนุษย์บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิได้ ด้วยฤทธิ์เดชอำนาจแห่งพระโลหิตของพระเยซู ซึ่งมีฤทธิ์เดชอำนาจเป็นอัศจรรย์ตั้งแต่สมัย 2,000 ปีที่แล้วที่ไม้กางเขน จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีฤทธิ์อำนาจอยู่ และจะมีฤทธิ์อำนาจอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดกาล เหมือนเพลงนี้

“ฤทธิ์อำนาจมีในโลหิตพระคริสต์             อัศจรรย์ ฤทธิ์อนันต์

ฤทธิ์อำนาจมีในโลหิตพระคริสต์            อัศจรรย์มีฤทธิ์ล้างบาปนั้น”

นี่เขาร้องมา 2,000 ปี แล้วจะร้องต่อไปจนสุดสิ้น จนกระทั่งไปสู่ชีวิตใหม่ในโลกหน้า ก็ยังร้องอยู่ เพราะว่ามีฤทธิ์อำนาจตลอดเวลา

“ฤทธิ์อำนาจมีในโลหิตพระคริสต์             อัศจรรย์ ฤทธิ์อนันต์

ฤทธิ์อำนาจมีในโลหิตพระคริสต์            อัศจรรย์มีฤทธิ์ล้างบาปนั้น”

ฤทธิ์อำนาจ อำนาจ อำนาจ อำนาจ ในโลหิตพระคริสต์  อัศจรรย์  ฤทธิ์อนันต์

ฤทธิ์อำนาจมีในโลหิตพระคริสต์            อัศจรรย์มีฤทธิ์ล้างบาปนั้น”

ขอบคุณพระเยซู เอเมน

 

*********************