คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2017 เรื่อง “New Years พอเพียง” โดย นคร เวชสุภาพร

คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่  1  มกราคม  2017

เรื่อง “New Years พอเพียง”

โดย นคร  เวชสุภาพร

 

สวัสดีปีใหม่ ปีนี้ปีระกา ก็คือไก่ จำได้ไหมครับว่าผมเคยพูดว่าไก่ มันทำไมนะ? มันร้องอย่างไงนะไก่ ปกติไก่ทุกเช้ามันจะร้องว่าอย่างไร? ลองร้องสิ ลองดู

“อยู่ก็รกโลก”

เพราะฉะนั้น ปีนี้ ไปที่ไหน เราก็จะเห็นแต่ไก่ เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่เห็นไก่ ก็เตือนสติตัวเองว่าอย่าอยู่บนโลกนี้ แบบรกโลก เขาไม่ได้ว่าเรา เขาเตือนเราว่าอย่าอยู่ก็รกโลก วันนี้จะไม่อยู่รกโลก เอเมน

ส่วนใหญ่พอมาถึงวันปีใหม่ คนก็มักจะตั้งเป้าหมายประจำปี ทุกปี ท่านทราบไหมครับว่าคนตั้งเป้าหมายตอนปีใหม่มากที่สุด ให้ทาย?  ท่านคิดในใจนะ ถ้าเป็นท่านปีใหม่ปีนี้ท่านจะทำอะไร?

ลดความอ้วน ดูแลสุขภาพให้ดี ออกกำลังกาย กินอาหารให้มีประโยชน์อะไรต่างๆ นี่เป็นเบอร์หนึ่ง เขาพิสูจน์กันมาแล้ว ทุกประเทศ ทุกแห่ง และทุกนานมาแล้ว ก็เป็นอย่างนี้ สมัยอดีต ก็เป็นอย่างนี้ คือตั้งเป้าว่าจะลดความอ้วน จะออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพตัวเอง พอถึงสิ้นปี ทำได้ไหม? ไม่ได้ … ไม่ได้ ก็เลยทำไม? ตั้งใหม่ คนที่ยังไม่ตั้ง ก็มาตั้งเก่า มันก็มากขึ้นทุกวัน ใช่ไหม?

ถามว่าทำไมเขาถึงตั้งกัน เพราะอะไร? เพราะว่าเขารู้ว่าสุขภาพร่างกาย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา หมายถึงคนเราที่ดูๆ กันอยู่นี้นะ ไม่นับถึงโลกวิญญาณ สุขภาพสำคัญที่สุด ทุกๆ คนก็รู้ แล้วก็ตั้งเป้าไว้ แต่พอถึงเวลา มันไม่ได้ มันต้องมีอะไรบางอย่างที่มาดึงเราออกไป จากความสำคัญนี้แน่ๆ จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับความสวยความงาม เราไม่ได้ตั้งใจจะลดความอ้วน เพื่อความสวย จริงไหม? จริงๆ เราต้องการลดความอ้วน เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง มากกว่าต่างหาก แต่มีอะไรบางอย่างที่มันใหญ่กว่า สำคัญกว่านั้นหรือ? ที่ทำให้เราไม่ได้สักทีหนึ่ง ว่าจะออกกำลังกาย จากนี้ต่อไปจะออกกำลังกายทุกวัน วันอย่างละน้อยๆ 30 นาที วันที่ 2 มกราคม ก็ทำได้ 30 พอวันที่ 5 ก็เหลือ 20 พอจบเดือนมกราคมไม่ทำแล้ว กลับมาเหมือนเดิม อย่างนี้ มันจะเป็นอย่างนี้ เป็นแล้วเป็นเล่า มันเป็นเพราะอะไร? วันนี้จะมาเปิดเผยท่าน

ท่านรู้ไหมว่าในพระคัมภีร์ พระเยซูสั่งให้เราระวังอะไร? พระคัมภีร์บอกไว้อย่างนี้นะ พระเยซูตรัสเอง ลูกา 12:15 ท่านดูว่าจริงไหม?

“จงระวังให้ดี จงระวังตนจากความอ้วนทุกชนิด” ไม่ใช่นะ

“ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ที่การอ้วน หรือผอม” ไม่ใช่อีกแหละ

ลูกา 12:15 พระเยซูบอก “จงระวังให้ดี”

แสดงว่ามันทำไม? มันอันตรายมากสำหรับชีวิตเรา

ลูกา 12:15 “จงระวังให้ดี ระวังตนจากความโลภทุกชนิด ชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ที่การมีทรัพย์สินสิ่งของเหลือเฟือ”

 

แสดงว่าความโลภมันอันตรายมาก มีสิ่งเดียวสิ่งที่พระเยซูตรัสสอนเรา “จงระวัง” ก็คือระวังตรงนี้ ไม่ใช่ระวังว่าจะอ้วน แต่ผอมได้ ก็ดีนะ ไม่ใช่ระวังอย่างอื่น แต่ระวังตรงนี้แหละ และตรงนี้ จะเป็นสาเหตุที่ผมบอกว่าตั้งเป้า แล้วก็ไม่ได้ ตั้งเป้า แล้วก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาไปมัวแต่อยากจะมีสิ่งของเหลือเฟือ “ระวังตนจากความโลภทุกชนิด” เป็นคำเตือน คำตรัสของพระเยซูมาแล้ว 2,000 ปี ยังคงทันสมัย ยังคงเป็นอยู่อย่างนั้นจริงๆ

ในทางโลก คนมักจะตั้งเป้าหมาย หรือมีความฝันกันว่าจะต้องมีบ้านหลังใหญ่ๆ โตๆ มีเงินทองสะสมเยอะๆ มีชีวิตหรูหราสุขสบาย มีรถขับสบายๆ แล้วก็ทำไม? ทุ่มเททุกอย่างเลย ตั้งแต่เริ่มต้นปี ที่คิดว่าตัวเองจะดูแลตัวเอง ทำอะไร? หาทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกวิถีทาง เพื่อจะได้มาในสิ่งที่ฝันเอาไว้นี่แหละ และเมื่อได้แล้ว ก็บอกกับตัวเอง พอใครได้ สิ้นปี พอได้ตามฝัน ก็บอกว่า …

“ชีวิตนี้ประสบผลสำเร็จแล้ว”

ถูกไหม? พอสิ้นปี การงานเจริญรุ่งเรือง ทุกอย่างดีหมด ทรัพย์สินเงินทองมากขึ้นกว่าเก่า รถก็เปลี่ยนคันใหม่ อย่าว่าแต่เขาพูดตัวเองสำเร็จ คนข้างๆ มองไปยังบอกว่าเขาประสบผลสำเร็จในชีวิต แล้วพระเยซูบอกว่าอย่างไร?

ในทางพระคัมภีร์ พระเยซูบอกว่าเรียกคนเหล่านี้ ที่คิดว่าตัวเองสำเร็จแล้วนี้ว่าอะไร? “โลภ” โลภ คืออยากได้ทรัพย์สิน สิ่งของเหลือเฟือ เรียกว่าโลภ แต่เรามนุษย์เราเรียกว่า “สำเร็จ” เรายังแอบชมคนข้างๆ เลย ปีนี้เขาประสบผลสำเร็จ แต่จริงๆ มันคือโลภ เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดต่อไป คืออะไร?

เพราะความโลภนี่แหละ ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อย กลายเป็นคนตามที่พระเจ้าส่งไก่มาเตือน ก็คือเป็นคนที่อยู่ไปก็รกโลก เขาเรียกว่าสวนทางคำอวยพรบนโลกนี้เลยนะ สวนทางที่เราได้ยินได้ฟังมาตอนสิ้นปีว่าความสำเร็จ คืออะไร? หน้าหนังสือพิมพ์ก็ลง คนนั้นก็สำเร็จ คนนี้ก็สำเร็จ คนนี้เป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 จากแต่ก่อนนี้เป็นเบอร์ 5 ตอนนี้มหาเศรษฐีคนนี้เคยเป็นเบอร์ 1 ตอนนี้เป็นเบอร์ 3 กลุ้มใจมากเลย คนเขาชมกันใหญ่เลยว่าประสบผลสำเร็จ แต่เราดูสิว่าพระคัมภีร์ พระเยซูสอนเอาไว้อย่างไร?

เพราะอะไรที่ทำให้คนเราเกิดความโลภ? ก็เพราะว่าเราอยากได้ในสิ่งที่เนื้อหนังความต้องการ ฝ่ายร่างกาย ก็คือฝ่ายบาป เชื้อบาปทางร่างกาย มันอยากได้ แล้วมันพร้อมจะกระทำทุกอย่างที่เรียกว่าบาป ที่เรียกว่าผิด ความโลภจะทำให้เราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ที่ผิด ที่บาป เพื่อจะได้มาในสิ่งที่ตัวเองฝันเอาไว้ ที่เราต้องการ

คอนเชปในชีวิต ที่เราตั้งเอาไว้ เราอยากได้สิ่งนั้น เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งนั้น เราจะลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างเลย  เพื่อจะได้ทรัพย์สมบัติ สิ่งของเหล่านี้เข้ามา เพื่อจะได้คำว่า “ประสบผลสำเร็จ” จากคนข้างเคียง เพื่อจะได้รับคำชม คำว่า “ประสบความสำเร็จ” จากโลกนี้ ที่เขาชมออกมา ใช่ไหม? ถูกไหม? แต่พระเยซูบอกว่านั่นแหละ เรียกว่า “โลภ” และมันอันตรายมากต่อชีวิตของเราเลยทีเดียว

พระคัมภีร์บอกว่าในบรรดาบาปทั้งหลาย “โลภ” ถือเป็นบาปที่รุนแรง ร้ายแรงที่สุด พูดอีกครั้งหนึ่งก็ได้  พระคัมภีร์บอกว่าความโลภ เป็นบาป เป็นความผิดที่ร้ายแรง เกิดผลรุนแรงที่สุด เพราะเป็นต้นเหตุหลัก ที่จะนำไปสู่ความบาปอื่นๆ เยอะแยะมากมายไปหมด การกระทำชั่วร้ายอื่นๆ ไปหมด เกิดขึ้นจากในใจที่มีแต่ความโลภเท่านั้น

เพราะฉะนั้น เราควรที่จะกลัวความโลภมากกว่ากลัวสิ่งอื่นๆ มากกว่ากลัวเจ็บป่วย มากกว่ากลัวมะเร็งอีก กลัวควาโลภดีกว่า เราอาจจะบอกเราอาจจะไปออกกำลังกาย เพื่อจะมีสุขภาพแข็งแรง เพื่อจะหนีจากโรคมะเร็งใช่ไหม? หนีจากโรคร้ายต่างๆ ใช่ไหม? นั่นก็ดีอยู่แล้วนะ แต่ยังดีไม่พอเลย ดีกว่านั้น และดีที่สุด คือท่านต้องหนีจากความโลภ เพราะความโลภนี่รุนแรงที่สุด

ความโลภเปรียบเหมือนอะไรรู้ไหมครับ? พระคัมภีร์บอกว่ารูปเคารพ เหมือนพระเจ้าอีกองค์หนึ่งที่เราไปนมัสการไม่รู้ตัว ที่ทำให้มนุษย์ทุกคน ที่ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จักพระเจ้า เป็นคริสเตียนหรือไม่เป็นคริสเตียน ถ้าเจอตัวนี้เข้าไป แพ้ความโลภเข้าไป ทำให้เกิดอะไร? เขาจะมองเห็นคุณค่าของสิ่งของที่อยู่บนโลกนี้มากกว่าพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ มากกว่าพระเยซู มากกว่าพระบิดาของพระเยซู มากกว่าพระเจ้าผู้ทรงประทานความรอดให้กับมนุษย์ทุกคน มากกว่าพระเจ้าผู้ทรงครอบครอง ควบคุมทุกอย่าง กำชีวิตมนุษย์ เขาหนีไปแล้ว เขาไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เขาไปนมัสการ เขาไปกราบไหว้รูปเคารพตนหนึ่ง ที่มองด้วยตาไม่เห็น ที่เรียกว่าความโลภ

พระเยซูสอนอย่างไรในเรื่องนี้ ที่บอกว่าให้ระวังตนจากความโลภทุกชนิด ระวังอย่างไร? ฟังพระเยซูพูดสอนเรานะครับ เจ็บแสบจริงๆ มัทธิว 6:19-21 พูดชัดเจนมากๆ จนกระทั่งไม่ว่าเมื่อไรก็ตามเอาอันนี้มาอ่าน ก็โดนใจทุกปี  ไม่ใช่เฉพาะปีใหม่ปีเดียว วันที่ 1 มกราคมอย่างเดียว ทุกวัน เอามาอ่านทุกวัน ใช่ทุกวัน และมันจริงทุกวัน และมันโดนตลอดไม่ใช่เฉพาะปี 2017 นี้เท่านั้น ตั้งแต่ไม่ถึง 2,000 ก่อนหน้า 2,000 อีก ตั้งแต่ก่อนค.ศ.อีก ตั้งแต่มนุษย์เกิดมาและตกลงไปในความบาป มันก็เป็นอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้น พระเยซูเลย รับตรัส สอนเราก่อน เพราะรักเรา กลัวเราจะทำลายชีวิตของตัวเราเอง

มัทธิว 6:19-21 พระเยซูเตือนเรานะครับ สมมติว่าพรเยซูวันนี้มาเจอเรา มาคุยกับเราเรื่องปีใหม่ ขณะที่เรากำลังตั้งเป้าว่าปีหน้าเราจะอันโน้น ปีหน้าเราจะทำอันนี้ เราจะอย่างโน้นอย่างนี้ เรามองดูหนังสือพิมพ์ มองดูคนรอบข้างทั้งโลก คนนี้ก็ประสบผลสำเร็จยิ่งใหญ่ คนนั้นก็ประสบผลสำเร็จยิ่งใหญ่ คนนั้นก็ร่ำรวยมหาศาล คนนี้มีชื่อเสียงเยอะแยะมากมาย เราคงจะตั้งอะไรบางอย่างในชีวิตของเรา ฟังว่าพระเยซูเช้าวันนี้  มาพบเราในตอนเช้าวันปีใหม่ 2017 นี้ แล้วบอกเราว่าอย่างไร? แล้วท่านจะเชื่อไหม? นี่มีพระเยซูมาปรากฏกับท่านเช้าวันนี้ แล้วบอกอย่างนี้ ท่านจะเชื่อไหม? ท่านจะมีกำลังไหม? เชื่อแน่มีกำลังแน่ สมมติว่าตอนนี้พระเยซูกำลังพูดกับท่านอยู่ พระเยซูเช้าวันนี้กำลังพูดกับท่านว่าอย่างไร? ในขณะที่โลกกำลังรุนแรงมากในเรื่องเกี่ยวกับการสะสมทรัพย์สิ่งของ การอยากได้ในสิ่งที่เป็นของโลกนี้ พระเยซูกำลังมาบอกเรา กำชับเราว่าอย่างนี้ว่า …

          มัทธิว 6:19-21 “19 อย่าสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนในโลก ที่ซึ่งแมลงและสนิมอาจทำลายได้ และที่ซึ่งโจรอาจงัดแงะเข้าไปขโมยได้ 20 แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติไว้ สำหรับตนในสวรรค์ ที่ซึ่งแมลงและสนิมไม่อาจทำลายได้  และที่ซึ่งโจรไม่อาจงัดแงะเข้าไปขโมยได้ 21 เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย”

 

พระเยซูกำลังพูดกับเรา ตรัสด้วยความรัก ความห่วงใยชีวิตของเรามากเลย ยิ่งนักวัน ยิ่งมากขึ้นทุกวัน แล้วในหนังสือ 1 ยอห์น 12:15 ยังบันทึกไว้อย่างนี้

1 ยอห์น 12:15 “อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดา ไม่ได้อยู่ในผู้นั้น”

 

ก็หมายถึงเขาไม่ได้รักพระเจ้านั่นเอง  อย่าไปโกหกเลยว่ารักพระเจ้า ไม่จริง มันต้องมีอะไรอันหนึ่งอยู่ในใจของคุณ อะไรเบอร์หนึ่ง นั่นแหละ คุณกำลังกราบไหว้สิ่งนั้น พระเจ้าหรือทรัพย์สินเงินทอง พระเจ้าหรือชื่อเสียงเกียรติยศบนโลกใบนี้ พระเจ้าหรือคำอวยพรต่างๆ หรือคำที่เขายกย่องเราต่างๆ ว่าสำเร็จแล้วบนโลกใบนี้ อะไรสำคัญกว่า ท่านให้อะไรสำคัญกว่า

ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน? ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย พระเยซูตรัสกับเราอย่างนี้ บอกเราอย่างนี้ว่านี่คือความจริง ทรัพย์เราอยู่ที่ไหน? ใจเราอยู่ที่นั่น ตอนนี้ใครซื้อรถมาใหม่เมื่อวานนี้ สมมติ หรือซื้อมาเมื่อปีนี้เอง ตอนนี้ บอกท่านว่ารถท่านถูกชนแล้ว ท่านฟังรู้เรื่องไหมเนี้ย? ไม่ต้องรถใหม่หรอก รถเก่าก็ได้ ตอนนี้ มีใครไม่รู้ ไม่ต้องถูกชนเลย มีคนมาขีดรถคุณเป็นรอย ฟังรู้เรื่องไหมเนี้ย นั่นแหละใจท่านอยู่ไหน? อยู่ที่นั่น มันต้องฝึกฝน มันทำได้นะ มันต้องฝึกฝนว่า …

“ช่างมัน ฉันจะอยู่กับพระเจ้า ช่างมัน ฉันจะอยู่กับพระเยซู”

นี่หมายถึงว่าพูดแบบง่ายๆ ก่อนนะ ต้องค่อยๆ เรียนรู้ว่าชีวิตอย่างนี้ทำอย่างไร? ถ้าเราต้องเลือกรักพระเจ้าพระบิดากับรักโลกนี้ คือรักทรัพย์สมบัติในโลกนี้ เราจะเลือกใคร? ถ้ารักทรัพย์สมบัติ ก็ต้องใส่เครื่องหมายคำถามว่ารักพระเจ้าจริงหรือเปล่า? ถามตัวเองนะ อย่าไปถามคนอื่น ถามตัวเอง วันนี้ลองถามตัวเอง ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าเราอยากได้โน่น อยากได้นี่ ลองถามตัวเองว่าความอยากนั้น มันอยากเกินกว่าที่เรามีพระเจ้าอยู่ในตัวไหม? เกินกว่าที่เรามีพระเยซูสถิตอยู่ในใจไหม? เกินกว่าที่เราเป็นลูกพระเจ้าไหมเนี้ย มันเกินกว่าไหม?

คำว่า “เป็นลูกพระเจ้า” กับคำว่า “ร่ำรวย” เราให้อันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกอบกับช่วงนี้ เป็นช่วงแห่งการตั้งเป้าหมาย แล้วก็เป็นช่วงที่เราได้ยินข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายเยอะแยะไปหมดเลย เรารู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร? มันคือสิ่งที่จะมาล่อเรา มันเหมือนกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กำลังประกาศว่า …

“ให้ก็ตามที่ได้ยินเสียงระฆังนี้แล้ว เสียงเพลงนี้แล้ว จงก้มกราบปฏิมากรหรือรูปปั้นทองคำ ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ปั้นขึ้น สมัยบาบิโลน”

ชัดรัด เมชาค และอาเบดเนโกบอกว่า … “ไม่ ฉันไม่กราบไหว้”

คล้ายๆ กัน ตอนนี้มีเสียงกระดิ่งเยอะแยะไปหมดเลย ทุกวันๆ ว่า …

“ถ้าได้ยินเสียงกระดิ่งนี้แล้ว จงกราบสิ ก้มกราบ วิธีรวย วิธีสำเร็จ วิธียอดเยี่ยม ไปๆ”

จะไปหรือไม่ไป?  หรือจะยึดมั่นว่า … “ฉันจะยึดมั่นพระเยซู พระเจ้าของเรา”

ท่านลองคิดดูนะ แม้กระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  ที่เรารัก ที่เราอาลัยท่าน ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้ยิน ได้ฟังบ่อยมากเลย โครงการเยอะแยะมากมาย พระดำรัสของพระองค์เต็มไปหมดเลยที่สอนเรา อะไรบ้างที่สำคัญที่สุด เตือนแล้วๆ เตือนอีก ทำเป็นตัวอย่าง ก็คือเศรษฐกิจ

ถามว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” คืออะไร? ก็คือสิ่งที่ตะกี้นี้ พระเยซูตรัสเตือนนั่นเอง ก็คืออย่าโลภ น่าจะเป็นโอกาสดีที่เราจะตั้งใจเอาจริงเอาจัง ฝึกฝนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ในเรื่องของความไม่โลภ เริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปอย่างจริงจัง โดยมี 2 พ่อเป็นกำลังใจให้กับเรา คือพระเจ้าผู้เป็นพ่อแห่งฟ้าสวรรค์ และพ่อหลวงของเรา ที่แม้ว่าจะจากเราไป แต่พระดำรัส ความรัก ความห่วงใยของพระองค์ก็ยังอยู่กับเรา ใช้โอกาสนี้ว่าได้กำลังใจจาก 2 พระองค์มาช่วยเราในการที่จะสามารถพบกับความสุขที่แท้จริง

ในหลวง รัชกาลที่ 9 ตรัสสั่งไว้ว่า … “ความพอเพียง คือสิ่งที่จะทำให้คนไทยได้พบกับความสุขที่แท้จริง”

ตรงเป๊ะกับที่พระเยซูเตือนเมื่อตะกี้นี้ พระดำรัสของพระองค์ตอนหนึ่ง ในหลวงตรัสไว้อย่างนี้

“คำว่า “พอ” ก็เพียงพอ … เพียงนี้ก็พอ ดังนั้นเอง … คนเรา ถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย … เมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย … ทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภมาก … คนเราก็อยู่เป็นสุข

พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็พอเพียง”

เหมือนในหลวงรัชกาลที่ 9 สรุปให้เราเรียบร้อยเลย  จากที่ตะกี้เราฟังพระเยซูตรัสแล้ว ตอนนี้ในหลวงสรุปให้เรา … เราทำอย่างนี้แหละ มิได้หมายถึงมีของหรูหราไม่ได้ แต่มีไว้ เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า มีไว้เพื่อให้ มีไว้แจกจ่าย มีไว้เพื่ออนุเคราะห์ ผู้คนอื่นๆ ที่เขาลำบากลำบน ไม่ใช่มีไว้เพื่อสนองกิเลสตัณหาตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่ มีหรูหรา เพื่อไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่เบียดเบียนคนอื่น แล้วแถมเอื้อเฟือต่อคนอื่น เพราะเรามีมาก เพราะเราทำงานเหนื่อยมาก อดทนมาก ขยันหมั่นเพียร เรามีมาก เราก็แบ่งปันคนอื่น ไม่ใช่เอาไว้ๆ อย่างเดียว

เห็นไหม? สิ่งเหล่านี้โลกไม่ได้สอนเรา สิ่งเหล่านี้ โลกเอาไว้เชิดชูตอนปีใหม่ว่าคนนี้เป็นอย่างนี้ แต่พระเจ้า พระเยซูคริสต์ตรัสสอนเรา เพราะฉะนั้น ในช่วงปีใหม่นี้ เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ตั้งใจและเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ ในการทำดี เพื่อพ่อผู้สถิตในสวรรค์ของเรา และเพื่อพ่อหลวงของเรา คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชของเรา ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ไม่โลภ ไม่ยึดติดกับทรัพย์สมบัติเงินทองบนโลกนี้ แต่ตั้งใจที่จะสะสมทรัพย์สมบัติของเราไว้ในสวรรค์ เหมือนเพลงที่เราร้องกันบ่อยๆ

“โลกนี้ไม่ใช่บ้านเรา            ฉันเพียงอาศัยชั่วคราว

สมบัติฉันสะสมไว้               ที่ในสวรรค์เบื้องบน

ทูตสวรรค์ร้องเรียกอยู่         ณ ประตูบนวิมาน

และฉันรู้ว่าโลกนี้                 ไม่ได้เป็นบ้านฉันเลย”

แล้วจะไปห่วงอะไรล่ะ แล้วจะเอาไปทำไมเยอะแยะ ตายไปแล้ว ก็เอาไปไม่ได้ แจกจ่ายใช้ให้ดีที่สุด ให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เอเมน

 

***********************