คำหนุนใจจาก Ps.เทพิน ชาติผดุง เรื่อง “เราได้รับความรอด สมบูรณ์ทางฝ่ายวิญญาณ” วันที่ 24 มีนาคม 2020

คำหนุนใจจาก Ps.เทพิน ชาติผดุง

เรื่อง “เราได้รับความรอด สมบูรณ์ทางฝ่ายวิญญาณ”

วันที่  24  มีนาคม  2020

 

สวัสดีค่ะพี่น้องที่รักในพระคริสต์ทุกท่าน ตอนนี้เรื่องที่เราเผชิญกันอยู่ และเป็นทุกข์กันมากมาย ก็อยากจะมาหนุนใจ ให้กำลังใจกัน บางคนอาจจะมีคำถามหรือการได้รับคำสอนว่าพระเจ้าลงโทษ ก็อยากให้พี่น้องทราบว่าในช่วงเวลานับแต่พระเยซูมาบังเกิดเป็นมนุษย์ จนกระทั่งตายบนไม้กางเขน  และเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว พระองค์ทำสำเร็จ แล้วพระองค์ไม่สาปแช่งใคร  การสาปแช่งซึ่งควรจะมี พระเยซูได้รับไปทั้งหมดแล้ว  แต่ใครจะได้เป็นเจ้าของ ใครจะได้รับตามพระสัญญา ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่จะรับเอาเข้ามาในชีวิต  แต่ถามว่าในโลกนี้ มันเป็นโลกที่เสียหาย  มันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความบาป  แต่เราไม่ใช่คนบาปอีกต่อไป  เพราะว่าพระเยซูได้ไถ่เราเรียบร้อยแล้ว เราสะอาดบริสุทธิ์ และเราเป็นลูกของพระเจ้า  เราไม่ได้เกี่ยวกับการที่ถูกสาปแช่งอะไร

ดังนั้น เหตุการณ์ไวรัสโควิด หรือว่าภัยธรรมชาติอะไรก็ดี บอกว่าพระเจ้าลงโทษ อันนี้ก็ไม่ถูกต้องตามพระคัมภีร์ อันนั้นเป็นตามยุคสมัยของพระคัมภีร์เดิมที่ผิดบัญญัติ  ก็ถูกลงโทษ ก็มีการสาปแช่ง มีการพิพากษา แต่ถึงวันเวลานี้ พระเยซูคริสต์ได้รับให้เราไปหมดแล้ว  และแบกทุกอย่างให้เราแล้ว เราไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการถูกสาปแช่ง หรือถูกลงโทษอะไรอีกต่อไป พี่น้องลองดูที่หนังสือฮีบรู 10:14 แล้วเราจะรู้ว่าถ้อยคำพระเจ้าบอกไว้อย่างนั้นจริงๆ …

ฮีบรู 10:14 “โดยการถวายบูชาครั้งเดียว พระองค์ก็ได้ทรงกระทำให้คนทั้งหลาย ที่ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้วนั้น ถึงความสมบูรณ์เป็นนิตย์”

 

เห็นไหมค่ะว่าไม่ใช่ว่าพระเยซูตายบนไม้กางเขนให้เราแล้ว เป็นขึ้นมาจากความตาย  ให้เรามีชีวิตใหม่กับพระองค์ ไม่ใช่ว่าเป็นชั่วครั้งชั่วคราว  หรือว่าค่อยๆ ไป แต่พระคัมภีร์ฮีบรู 10:14 บอกว่า ที่พระเยซูทำ ที่ถวายเครื่องบูชาเพียงครั้งเดียว  พระองค์ก็ทำให้คนทั้งหลาย ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วนั้น ถึงความสมบูรณ์ตลอดไป

แต่แน่นอนในฝ่ายเนื้อหนังที่มองไม่เห็น พี่น้องก็ไม่ทราบว่ามันสมบูรณ์อย่างไร?  เพราะว่ามันยังติดอยู่กับธรรมชาติของโลกนี้  ธรรมชาติหรือสิ่งที่มองเห็นในโลกนี้ เป็นเรื่องที่เสียหาย และเอากลับคืนมาไม่ได้  แต่ที่พระคัมภีร์พูดถึง หมายถึงฝ่ายวิญญาณ ชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา เราเป็นคนที่ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว เพราะเรายอมรับเอาการกระทำของพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตของเรา ดังนั้น สิ่งที่พระเยซูกระทำ จึงเป็นของเรา ที่พระเยซูบอก ถ้อยคำพระเจ้าบอกว่าพระองค์ทรงทำให้คนทั้งหลายได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วนั้น ถึงความสมบูรณ์ตลอดไป คือสมบูรณ์ในการเป็นลูกพระเจ้า สมบูรณ์ในความบริสุทธิ์ สะอาด สมบูรณ์ในชีวิตที่เป็นแบบเดียวกับพระเจ้า  เพราะว่าพระองค์ทรงเข้ามาอยู่ในเรา ทั้งพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ เข้ามาอยู่ในทุกคนที่เชื่อ ในพระเยซู เชื่อด้วยปาก รับด้วยใจ และขอพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่กับเรา พระองค์เข้ามาอยู่ทั้ง 3 พระภาค แล้วเป็นกำลังของเรา  นำพาเรา การที่เราบังเกิดใหม่แล้ว  มีชีวิตสมบูรณ์ทางฝ่ายวิญญาณตลอดไป ไม่ใช่ค่อยๆ มาสมบูรณ์  แต่ภายนอกที่มองเห็นนั้น เป็นการต้องเจริญเติบโต โดยวิถีทางที่พระเจ้าจะนำพา

ถ้อยคำพระเจ้า อาจารย์เปาโลบอกว่าการเติบโตนั้น มาจากพระเจ้า  ก็มีคนสอนถ้อยคำ มีคนปลูก มีคนรดน้ำ  แต่การเติบโตนั้น พระเจ้าเป็นผู้ทำให้เติบโต และพวกเราก็เติบโตในความเชื่อ ในความรัก ในชีวิตที่พัฒนาขึ้นฝ่ายจิตใจ  ฝ่ายวิญญาณนั้นสมบูรณ์ครบถ้วนหมดเลย  ไม่มีอะไรบกพร่อง ไม่มีอะไรเสียหายเลย  แต่ว่าความคิดจิตใจของเรา  มันถูกครอบงำด้วยเรื่องของโลก ด้วยเรื่องเก่าๆ ที่คิดว่าพระเจ้าทำร้าย พระเจ้าสาปแช่ง พระเจ้าทำให้เกิดโน่นนี่นั่น  แท้จริงพระเจ้าไม่ใช่นะ ไม่ได้เป็นผู้ทำอย่างนั้นเลย  เรามั่นใจได้ เพราะว่าถ้อยคำพระเจ้าบอกไว้  บอกว่าไม่ใช่ พระเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ  ไม่ได้ทำให้มันเกิด  เราต้องมาเข้าใจตรงนี้  แต่ว่าใครทำให้เกิด? มาร  ซึ่งมนุษย์ไปยอมให้เขามาเป็นนาย ในโลก ในตัวของผู้ที่ไม่เชื่อ  เขาก็สำแดงไปตามเรื่องของเขาที่ไม่ดี ทั้งสิ้น  แล้วก็โทษว่า …

“นี่เห็นไหม? พระเจ้าทำ  พระเจ้าโกรธ พระเจ้าตัดสิน พระเจ้าพิพากษา”

พี่น้องคงจำได้ในมัทธิว บทที่ 24 พระเยซูก็บอกสาวกว่าจะบังเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่พระองค์จะเสด็จมา  จะมีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด มีการกันดารอาหาร มีสงคราม มีโรคระบาด นั่นไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าทำให้เกิด แต่พระเยซูเล่าให้เราฟังว่าคือเรียกว่าความชั่วร้ายของโลก ที่มารทำให้ยับเยิน มันจะมาเข้มข้นในตอนสุดท้าย ที่พระเยซูจะมา เพราะพระเยซูกำลังจะมา มารรู้ไหม? มันก็รู้เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนที่เขาจะต้องสูญเสียทุกอย่างไป เขาก็ต้องทำลายมัน ให้มันยับเยินไปเลย  และวิธีที่เขาจะทำให้พระเจ้าเสียใจที่สุด ก็คือวิธีทำร้ายมนุษย์  เพราะว่าพระเจ้ารักมนุษย์ รักพวกเราทุกคน จึงยอมให้พระเยซูคริสต์มาตายแทนเรา

เราดูใน 2 เปโตร 3:9  บอกว่า … “องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเชื่องช้าที่จะทำตามพระสัญญาอย่างที่บางคนคิด แต่ทรงอดทนต่อท่าน เพราะพระองค์ไม่ประสงค์ให้ผู้ใดพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่”

 

เห็นไหม พระเจ้าไม่ได้เป็นผู้ที่ทำให้เกิดทุกข์ภัยเหล่านี้  แต่ทุกข์ภัยเหล่านี้มาจากมาร มาจากวิญญาณชั่วที่ดลใจให้ผู้คนทำร้ายกัน  ดลใจให้มนุษย์ทำร้าย ธรรมชาติ โลก ทำลายสิ่งที่จะทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุข ก็ทำให้มันเละเทะไป แล้วตัวเองก็รับผลของมัน  แล้วก็บอกว่าพระเจ้าลงโทษ

ในเวลานี้ พระเจ้ายังไม่ลงโทษ ถ้าพี่น้องอ่านพระคัมภีร์ทั้งหมด ก็จะทราบว่ายุคนี้เป็นยุคพระคุณ ยุคคริสตจักร ไม่มีการลงโทษ  มีเป็นเรื่องของธรรมชาติของโลกนี้ ที่เสียหายไป มันก็ออกลูกมาเป็นความเสียหายต่างๆ มากมาย  ถ้าจะพูดถึงพระเจ้าลงโทษ ก็ต้องไปวิวรณ์โน้นเลย ตอนที่มีตรา มีแตร เป็นเวลาที่พระเจ้ารับคริสตจักรไปแล้ว  จึงส่งการลงโทษมาถึงโลก มาถึงมนุษย์ที่ดื้อไม่เชื่อฟัง

ดังนั้น รายการโควิด-19 หรือไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มาจากพระเจ้า เราอย่าไปรับข้อมูลนี้ว่าพระเจ้าลงโทษ มันเลยได้มา เพื่อสั่งสอนให้รู้ซะบ้าง ไม่ใช่นะ พระเจ้ารักมนุษย์ เมื่อกี้เราก็รู้แล้ว  อ่านพระคัมภีร์ไปแล้ว พระเจ้าไม่ได้ช้า หรือมาช่วยเราเร็วๆ  เพราะว่าทรงอดทนกับพวกเรา  พระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศเลย  แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่ ดังนั้น การที่พระองค์จะให้เรากลับใจใหม่ พระองค์ทำด้วยความเมตตา  เข้ามาด้วยความเมตตา ให้เราเห็นความดีงามของพระองค์ ความรักของพระองค์ ไม่ใช่ฟาดเราจนเละ มารฟาดเราจนเละ  แต่พระเจ้ามาช้อนเราให้กลับคืนดี มารทำให้เรือแตก แต่พระเจ้าต่อเรือเราให้สมบูรณ์แล่นได้ต่อไป เป็นอย่างนี้มากกว่า

ส่วนท่าทีที่เราจะมีในขณะนี้ ซึ่งจะดำเนินชีวิตในเหตุการณ์ขณะนี้  ดิฉันก็อยากจะยกตัวอย่างอันหนึ่ง  คงจะจำได้ในสมัยของดาเนียล มีเพื่อนของดาเนียลชื่อ ชัดรัด เมชาค และอาเบดเนโก ถูกกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จะโยนไปในเตาไฟ เพราะไม่ยอมนมัสการรูปปั้นที่กษัตริย์ตั้งเอาไว้ เขาพูดว่าพระเจ้าจะทรงช่วย  แต่ถ้าพระเจ้าไม่ช่วย เขาก็จะปรนนิบัติพระเจ้า แต่ผู้เดียวเท่านั้น  จะไม่ปรนนิบัติผู้อื่น  คือตายก็เป็นตายแหละ เชื่อพระเจ้าองค์นี้ ตายก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะว่าตายแล้ว ก็ไปอยู่กับพระเจ้าสบาย  ไม่ต้องลำบากอยู่ในโลกนี้

ดิฉันก็คิดว่านี่เป็นข้อคิดที่ดีสำหรับคริสเตียน คือผู้เชื่อพระเยซูทุกคน  ไม่ว่าจะอยู่หรือจะตาย  จะหัวเราะหรือร้องไห้ เราขอบคุณพระเจ้าได้ว่าเรามีความรอด เรามีแผ่นดินสวรรค์รอคอย  เราก็จะพูดเหมือนอาจารย์เปาโลว่าตายก็ได้กำไร เราอยู่ เราก็เป็นพยาน เพื่อพระเจ้า ไม่ว่าจะเจอทุกข์ลำบากอย่างไร? เราก็ยังยืนยันในความเชื่อของเรา เรายังมั่นใจว่าพระเจ้าองค์นี้แหละ ที่เชื่อได้ ไว้ใจได้  สัญญาไว้แล้วต้องเป็นความจริงว่าเราจะมีแผ่นดินสวรรค์อยู่ มีบ้านใหม่ ถนนทำด้วยทองคำ  เราจะกลับไปอยู่แผ่นดินของพระเจ้า ที่ไม่มีร้องไห้ ไม่มีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน  ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอีกต่อไป

ก็หวังว่าพี่น้องจะได้รับกำลังใจ  และตั้งใจของท่านอยู่ที่เบื้องบน  เพราะว่าทุกคนบนโลกนี้ ก็ประสบความทุกข์ยากลำบาก  ไม่ว่าท่านจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่ พระเยซูก็พูดแล้ว ไม่ได้บอกว่า …

“มาเชื่อฉันนะ เธอจะได้สบาย เธอจะไม่เจ็บป่วย เธอจะรวย”

ไม่มี มีแต่บอกว่า … “ท่านได้รับการยกโทษ ได้บังเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ได้สนิทกับพระเจ้า มีพระเจ้าเข้ามาอยู่ในตัว พาสเตอร์เราก็บอกว่าองค์ลง คือพระเจ้าเองมาอยู่กับเรา เป็นกำลังใจของเรา คอยบอก คอยปลอบใจ คอยสอน คอยหาทางออกให้ แล้วให้เรามั่นใจว่ามนุษย์มีชีวิตอยู่แค่ 60 ปี  70 หรือ 80 หรืออย่างมากร้อยนิดหน่อย  ไม่นานกว่านั้น ซึ่งเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่เรื่องที่เราจะอยู่กันยาว เป็นอมตะ นิรันดร์กาล ในแผ่นดินสวรรค์ ที่มีแต่ความสุข  มีแต่สิ่งสวยงาม มีแต่เรื่องบันเทิงใจ มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งสิ้น ก็ไม่ได้บอกว่าเราจะร้องไห้ไม่ได้ เราจะเสียใจไม่ได้  หรือตกใจไม่ได้ แต่ถ้าเราตกใจกลัว ก็ให้เรารีบเข้ามาหาพระเจ้า  เพื่อให้ถ้อยคำของพระองค์นั้น ล้างความกลัวออกไป พระเจ้าไม่ได้ให้วิญญาณแห่งความกลัว  แต่ให้วิญญาณแห่งความกล้าหาญ

วิญญาณแห่งความกลัวมาจากมาร  แล้วมารก็พยายามที่จะให้กลัว เพื่อที่เขาจะได้ควบคุมท่านได้  ฉะนั้น พระเจ้าถึงได้ตรัสว่า “อย่ากลัวเลย” ตลอดเวลา พูดว่าอย่ากลัวเลย เพราะรู้ว่าเราต้องกลัว แต่การที่บอกว่าอย่ากลัวเลย  ก็เพราะว่าพระเจ้าช่วยได้  มั่นใจได้  ถ้าร่างกายนี้ต้องเสื่อมสลายไป ซึ่งมันต้องเสื่อมอยู่แล้ว ไม่ว่าวันใดวันหนึ่ง  แต่วิญญาณของเรา ซึ่งเป็นนิรันดร์กาล  จะนิรันดร์แบบไหน? นิรันดร์ในบึงไฟนรก หรือนิรันดร์ในแผ่นดินสวรรค์ ที่สวยงามของพระเจ้า เราก็เลือกเอา

ขอบคุณพระเจ้า ก็ขอให้พี่น้องได้มีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

*********************