คำหนุนใจ Pre Sermon วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2017
เรื่อง “A week after Easter”
โดย นคร เวชสุภาพร
สวัสดีครับ สวัสดีวันสงกรานต์ครับ สงกรานต์ไม่อยู่แล้ว แต่วันอะไรยังอยู่ สุขสันต์วันอีสเตอร์ยังอยู่ อยู่ตลอดไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงนี้ยังต้องอยู่ เพราะเทศกาลอีสเตอร์ต้องเลยไปอีก 50 วัน ไปถึงวันเพ็นเทคอสนั่นแหละ วันที่พระเยซูมาสถิตอยู่กับเรา เป็นครั้งแรก แล้วนอกเหนือจากนั้น วันนี้ยังเป็นวันที่ 7 จากการเป็นขึ้นมาใหม่ของพระเยซูคริสต์ พระเยซูยังมาประกาศข่าวประเสริฐด้วยตัวพระองค์องค์ 40 วัน หลังจากที่ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย
สัปดาห์ที่แล้ว เป็นวันเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู 1,980 กว่าปีมาแล้ว ยังจำได้ไหมว่าเราได้เรียนรู้เรื่องอะไรกัน? สำคัญอย่างไร? ในโคโลสี 2:14 นี่คือความสำคัญที่สุด ที่บอกว่าพระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย สุขสันต์วันเป็นขึ้นจากความตาย ยังคงเป็นอยู่ตลอดไป เพราะประโยคนี้ ประโยคนี้สำคัญมาก โคโลสี 2:14 บันทำไว้อย่างนี้ ท่านตั้งใจอ่านให้ดีๆ ผมอุตสาห์เลือกเอาภาษาไทยที่เขาแปลที่ดีที่สุดแล้ว เพื่อให้เห็นชัด ในโคโลสี 2:14 เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเกือบ 2,000 ปีที่แล้ว บนไม้กางเขน วันอีสเตอร์แรกของโลก วันศุกร์ประเสริฐแรกของโลก คือวันที่พระเยซูถูกตรึงที่ไม้กางเขนใช่ไหม? สิ่งนี้เกิดขึ้น ผลคืออะไร? โคโลสี 2:14 บอกว่า …
โคโลสี 2:14 “พระองค์ทรงฉีกกรมธรรม์ ซึ่งได้ผูกมัดเรา ด้วยบัญญัติต่างๆ ซึ่งขัดขวางเรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้น โดยทรงตรึงไว้ที่กางเขน”
“ฉีกกรมธรรม์” รู้ไหมแปลว่าอะไร? ไม่รู้ กรมธรรม์ คือสัญญา … สัญญาในที่นี่ ไม่ใช่สัญญาธรรมดา ภาษาเดิมตรงนี้ ไม่ใช่สัญญาธรรมดา แต่เป็นสัญญาที่เป็นคำสั่ง เป็นพระราชกฤษฎีกา สั่งโดยผู้ที่มีความยิ่งใหญ่สูงสุด สั่งมาต้องปฏิบัติตามนี้ เหมือนผู้พิพากษาของมหาจักรวาลเป็นผู้สั่ง เหมือนกับใครก็ตาม พระเจ้าอยู่หัว กษัตริย์ที่สูงสุด ประธานาธิบดีที่สูงสุดของประเทศนั้นๆ สั่งว่าให้ทำอย่างนี้ แล้วให้จดบันทึกไว้ในหนังสือสัญญา หรือคำสั่งนี้ คำว่ากรมธรรม์ แปลว่าอย่างนี้ เป็นคำสั่ง สั่งลงมา
สั่งใคร? ในนี้บอกว่า “สั่งเรา” เราคือใคร? มนุษย์ทั้งปวง แล้วพระเยซูทำอะไร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในนี้บอกว่าทรง … เพราะฉะนั้น สัปดาห์ที่แล้ว ทางโลกวิญญาณเกิดอะไรขึ้น ผมจะทำให้ท่านดู ท่านจะเห็นชัดเจนขึ้น
สัปดาห์ที่แล้ว ที่ไม้กางเขน ตามในนี้นะ โคโลสี 2:14 สัปดาห์ที่แล้วพระเยซูอยู่บนไม้กางเขน ในโลกวิญญาณ พระองค์ทรงหยิบซองขึ้นมา ซองนี้มีชื่อซองว่า “กรมธรรม์” เปิดซองออกมา พระราชกฤษฎีกา สั่งโดยพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ผู้ทรงเป็นผู้พิพากษาของมหาจักรวาล ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม เที่ยงธรรม ไม่มีลำเอียง สั่งอย่างไร? มนุษย์ต้องชดใช้สิ่งที่เขากระทำไป ด้วยความบาปที่เขากระทำ
บาป คือการกบฏต่อพระเจ้า
พระเจ้า คือผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่สูงสุดของมหาจักรวาล เขากบฏ ไม่เชื่อฟัง เป็นศัตรู คือกบฏ เขาได้รับโทษของการเป็นกบฎ แล้วโทษของการกบฏ มนุษย์เราก็รู้แล้ว คือประหารชีวิตลูกเดียว โทษของการกบฎของมนุษย์ ก็ไล่ลงมาเลย เขาต้องชดใช้บาป เวรกรรมของเขา เพราะเขาเป็นชนชาติแห่งการกบฎ ก็เขียนบันทึกยาวเลย เขาไม่สามารถที่จะเป็นลูกของเราอีกต่อไปได้ เขาต้องเป็นทาส จากฐานะที่เป็นลูกของพระเจ้า กลายเป็นทาส ในนี้เขียนไว้นะ เขาจะไม่สามารถเข้ามาอยู่กับเราได้อีกแล้ว จากที่อยู่ด้วยกันได้ เห็นกันได้ จับต้องกันได้ จากนี้เขาต้องถูกอัปเปหิไล่ออกไปอยู่ข้างนอก ที่มีการขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ทุกข์ทรมานในชีวิตนี้ และเขาจะไม่รู้จักเราอีกต่อไป เพราะถูกไล่ออกจากบ้านของเรา หรือเรียกว่าสวรรค์ หรือในพระคัมภีร์ใช้ชื่อว่าสวนเอเดน เขาถูกไล่ออกไปแล้ว ในนี้เขียนไว้ เขาไม่สามารถเข้ามาในสวนนี้ได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถเข้ามาในสวรรค์นี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ในกฤษฎีกานี้เขียนไว้อีกว่าเขาจะไม่ได้รับพร ซึ่งมีพรของเราอยู่กับเขาตลอดชีวิต เขาจะไม่ได้รับอีกแล้ว ร่างกายเขาที่ได้รับพรจากเราตลอดเวลา ไม่มีการตายเลย บัดนี้ ไม่มีพรอีกแล้ว มีแต่ความเสื่อมถอย เขาจะต้องตายทางร่างกายเขา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่จำเป็น นี่เขาต้องชดใช้ ร่างกายเขาต้องเสื่อมไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ตาย และวิญญาณของเขา ก็ไม่สามารถอยู่ในสวนเอเดน อยู่ในสวรรค์กับเรา ผู้ซึ่งเป็นพระเจ้าได้อีกเลย บันทึกเอาไว้อย่างนั้น
และมีอะไรอีก ถ้าเขาอยากได้พรจากเรา นิดหนึ่ง สักหน่อยหนึ่ง หรืออยากจะคุยกับเรา เขาสามารถทำได้ เราบันทึกไว้ในนี้นิดหนึ่งว่าเขาสามารถทำได้ โดยที่ให้เอาเลือดสัตว์มาลบล้างบาปเขา ปีละหนึ่งครั้ง เขาจะได้เลือดไปปกคลุมชีวิตเขานั้นชั่วคราว ปีต่อปี เอามาผ่อนเรา ก็ได้พรไปนิดหนึ่ง แต่เขาก็จะไม่เห็นเรา เขาจะไม่รู้จักเรา เขาจะไม่เข้าใจเรา นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยได้สุดแค่นั้นเอง ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว และเขาต้องผจญชีวิตเขาด้วยตนเอง โลกนี้จะเปลี่ยนไป สำหรับเขา เพราะเขาถูกลงโทษ จากผืนดินที่ปลูกอะไรก็ขึ้น อะไรที่กินได้มันขึ้นตลอด จะกลายเป็นตรงกันข้าม อะไรที่กินไม่ได้ เป็นขวางหนาม มันจะขึ้น โดยที่ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลย ไม่มีน้ำ มันก็ขึ้น เพราะมันจะทำลายเราอย่างเดียว อะไรที่เป็นประโยชน์กับเรา ใส่ปุ๋ย ทำอะไรกับมัน มันก็จะตายๆ ลำบากลำบน ชีวิตเขาจะต้องอยู่ด้วยความอาบเหงื่อต่างน้ำ ตลอดชั่วชีวิติของเขา แม้เขาจะแพร่พันธุ์ของเขา ตามที่ได้สั่งไว้ตั้งแต่แรก แต่จะแพร่พันธุ์ด้วยความทุกข์ยากลำบาก เวลาเขาแพร่พันธุ์ คือเขาคลอดลูก เขาจะทุกข์ทรมานมาก จริงไหมท่านผู้หญิง? มีใครบ้างออกลูกสบายๆ ไม่มี ทุกข์ทรมานมาก
นี่คือภาษาทั้งหมดนี้ เราเรียกกันว่า “คำสาปแช่ง” เข้าใจไหม? แช่งใคร? แช่งมนุษย์ สาปใคร? สาปมนุษย์ นี่คำสาปแช่ง แปลแค่นี้เอง สาปแช่ง แปลว่าการลงโทษ ที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้แล้ว โดยผู้สร้างมหาจักรวาลและสิ่งทั้งหลาย ซึ่งเรียกว่าผู้พิพากษาแห่งความยุติธรรม ก็คือพระเจ้า นึกไม่ถึงนะ เรานึกว่ามารซาตานเป็นศัตรูของเรา ไม่ใช่ ไม่ใช่มารเป็นผู้สั่ง มารซาตานเป็นศัตรูของเรา ก็จริง แต่ไม่มีสิทธิ์สั่งหรอก เพราะมารไม่มีอำนาจ ไม่มีสิทธิ์ คืนอำนาจเราด้วย แต่ผู้ที่สั่ง คือผู้พิพากษา เราตกอยู่ในคำสาป ใต้ฤทธิ์อำนาจ พระหัตถ์ของพระเจ้า แทนที่จะเป็นลูก เรากลายเป็นทาส
ย้อนกลับมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว บนไม้กางเขน พระเยซูคริสต์อยู่บนไม้กางเขน แล้วทรงหยิบเอากรมธรรม์นี้ขึ้นมา เปิดซองดู ไม่อ่าน เพราะพระองค์ทรงรู้แล้วว่ามีอะไร? มา ก็เพื่อสิ่งนี้ ในนี้บอกว่าอย่างไร? อ่านอีกครั้งหนึ่ง
โคโลสี 2:14 “พระองค์ทรงฉีกกรมธรรม์ ซึ่งได้ผูกมัดเรา ด้วยบัญญัติต่างๆ ซึ่งขัดขวางเรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้น โดยทรงตรึงไว้ที่กางเขน”
นี่ใช่ไหม? ผูกมัดเราใช่ไหม? ฉีกเลย จำไว้ เห็นหรือยัง? ไม่เห็น จำไว้ ได้ยินหรือเปล่า? ไม่ได้ยิน จำไว้ ได้ยินหรือยัง? จำไว้อีก ได้ยินหรือยัง? กลับไปบ้านฉีกต่อ เชื่อหรือยัง? รู้ไหม? รู้ไหม? แล้วเอาทั้งหมดนี้ ใส่ซองกลับคืน ทิ้งขยะ ใช่หรือเปล่า? ในนั้นบอกว่าอย่างไร? ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้น จบแล้วตอนนี้ ตอนนี้คำสาปแช่งทั้งหมดของเราอยู่ไหน? อยู่ที่ไม้กางเขน ทั้งหมดนี้ ใครเป็นคนทำ โดยคำสั่งของพระเจ้า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรเลย ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับมารซาตานเลย เป็นเรื่องของพ่อกับลูก พ่อต้องทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษา ลูกก็รับกรรมไป ถึงเวลาจบสิ้น ก็ออกมา จบแล้ว คำสาปแช่งอยู่ที่ไหน? ตะกี้นี้ที่พูดมาทั้งหมด ที่ขัดขวางเราทั้งหมด พระเจ้า ก็ไม่ได้ พร ก็ไม่ได้ ตอนนี้ ถวายสิบลด แล้วได้พรไหม? ไม่ต้อง ได้พร เพราะอะไร? จากการเป็นทาส กลายเป็น … อ่านเอาเองดีกว่า กาลาเทีย 4:4-7 บันทึกไว้อย่างนี้
กาลาเทีย 4:4-7 “4 แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว พระเจ้าก็ทรงใช้พระบุตรของพระองค์ (คือพระเยซูคริสต์) มาประสูติจากสตรีเพศ (คือแมรี่) และทรงถือกำเนิดใต้ธรรมบัญญัติ (ก็คือเป็นมนุษย์) 5 เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้น (คือมนุษย์ทั้งหลาย) ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ (ใต้คำสาปแช่ง, ใต้กรมธรรม์เมื่อตะกี้นี้) เพื่อให้เรา (มนุษย์) ได้รับฐานะเป็นบุตร 6 และเพราะท่านเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว (หมายถึงเชื่อแล้วและมีโอกาสแล้ว) พระองค์จึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์ เข้ามาในใจของเรา ร้องว่า “อาบา” คือพระบิดา (พ่อจ๋า เราจึงอธิษฐานว่าพ่อจ๋า) 7 เหตุฉะนั้น โดยพระเจ้า ท่านจึงไม่ใช่ทาสอีกต่อไป แต่เป็นบุตร และถ้าเป็นบุตรแล้ว ท่านก็เป็นทายาท (คือมีมรดกให้อีกด้วย เอเมน)”
หลับตาคิดแต่เรื่องนี้ตลอดเวลา ชีวิตเรามีแค่นี้เอง ไม่ต้องไปคิดอะไรมากเลย ข่าวประเสริฐมีอยู่แค่นี้เอง ไม่ต้องไปไล่ผีมารซาตาน ไม่ต้องไปไล่ที่ไหน? ไม่ต้อง ทั้งหมด เราอยู่ในพระหัตถ์พระเจ้า ไม่มีใครทำอะไรเราได้เลย ไม่ต้องห่วงแล้ว สมัยก่อน มันเป็นกฎวางไว้แล้ว เราไม่ต้องทำ มันก็โดนอยู่แล้ว มารมันได้แต่หัวเราะอย่างเดียว เราโดนอยู่แล้ว ตอนนี้มันหัวเราะไม่ออก เพราะได้พระพรอยู่แล้ว ยังไง ก็พร เพียงแต่เราต้องเชื่อเอาเท่านั้นเอง เราไม่เชื่อ เราก็ไม่ได้ ง่ายไหม? ง่ายที่สุดแล้ว
นี่คือหลักของไม้กางเขน มีอยู่แค่นี้เอง ไม่ได้เป็นเรื่องของศาสนา เรื่องของพิธีกรรม เรื่องของอะไร? เรื่องของข่าวดี พระเยซูอยู่ที่ไม้กางเขน พระองค์จึงประกาศข่าวดีก่อนเลย เสร็จแล้ว เรียบร้อยแล้ว แล้วจากนั้น พอพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาใหม่ในวันที่ 3 แล้วมาอยู่กับเหล่าสาวก 40 ก็บอกสาวกให้ออกไปประกาศ สิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์ ก็ดี ในโลก ก็ดี อยู่กับเราแล้ว อยู่กับเรา แปลว่าเราเป็นหัวหน้าของมนุษย์ เราเป็นหัวหน้าของเธอ ก็คืออยู่กับเธอ เธอผูกมัดอะไรในโลก มันก็ถูกผูกมัดในสวรรค์ เธอผูกมัดในสวรรค์ ก็ผูกมัดในโลก หมายถึงเธอมีอำนาจมากมายหมดแล้ว เป็นของเธอแล้ว เพราะฉะนั้น ออกไปประกาศ ไม่ต้องไปยุ่งกับมาร เสียเวลา แค่ออกไปประกาศ เท่านั้นเอง ไปบอกข่าวดีให้เขาฟังว่าข่าวดี คืออันนี้ๆ จบ เจอแมลงสาป ก็เหยียบไป บางครั้งพระเจ้า พระวิญญาณนำเราไปไล่ผี ก็ไล่ไปสิ คิดว่เป็นแมลงสาปตัวหนึ่ง ไม่เห็นมีอะไร? ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน สิ่งที่ยุ่ง ก็คือข่าวประเสริฐนี้ สิ่งที่เปาโลและสาวกรุ่นแรก กลัวที่สุด โมโหที่สุด ก็คือใครก็ตามที่มาลบเอาข่าวดีนี้ ให้มันน้อยลง ให้มันหายไป กลายเป็นข่าวไม่ดี ก็คือมนุษย์ยังมาทำอันโน้นอันนี้ เพื่อให้เรารอรับความรอด อันนี้ ก็ทำไม่ได้ อันนั้น ก็ทำไม่ได้ อันโน้น ก็ทำไม่ได้ ต้องมีพิธีกรรมอย่างโน้น ต้องมีพิธีกรรมอย่างนี้ ยุ่งไปหมดเลย ในที่สุด ไม่ได้รับความรอด เพราะมันง่ายมาก มีแค่นี้เอง ถ้าทุกคนบอกกันอย่างนี้ มาตั้งแต่แรก เมื่อ 2,000 ปีก่อน มันก็มาถึงพวกเราไม่ยากเลยใช่ไหม? ถ้ามีคนมาบอกเราอย่างนี้ตั้งแต่แรก มันคงไม่ยากมาจนถึงตอนนี้ใช่ไหม? แต่เขาไม่ได้มาบอกเราอย่างนี้ ข่าวประเสริฐไม่ได้มาถึงเราอย่างนี้ ข่าวประเสริฐมาแค่ 50% มาสัก 20% บอกอีก 80% เราต้องทำอยู่ ก็ตายสิ เราทำไหวที่ไหน? เรามาหาพระเยซู ก็เพราะเราไม่ไหวแล้ว เราจะขอความช่วยเหลือ เราไม่ไหวจริงๆ แต่พอมาหาพระเยซู เรายังต้องทำอย่างนี้อีก ทำอย่างนั้นอีก ตายแล้ว ไม่มีแรง มันง่ายขนาดนี้เอง มันไม่มีอะไรเลย อันนี้ทำได้ไหม? อันนั้นทำได้ไหม? อันโน่นทำได้ไหม? ไปโน้นได้ไหม? ไปเช้งเม้งได้ไหม? ไม่ต้องยุ่ง ไม่เกี่ยวอะไรกันกับข่าวประเสริฐเลย จบอยู่ตรงนี้ แล้วท่านก็มีชีวิตอยู่ต่อไป จะทำอะไรก็เชิญ เอเมน
อย่างนี้ก็ส่งเสริมคนทำบาปสิ … ผมส่งเสริมคนทำบาปไหม? ถ้าท่านรู้อย่างนี้ ท่านจะทำบาปไหม? ท่านยินดีไหม? ท่านทำ แต่ท่านไม่ยินดีในการทำ ไม่เหมือนแต่ก่อนนี้ ไม่ยินดี แต่ท่านต้องทำ แต่เดี๋ยวนี้ ท่านไม่ยินดี ท่านก็สามารถสู้กับมันได้ สู้กับตัวเองนะ ไม่ได้สู้กับมารนะ สู้กับกิเลสตนเอง แล้วก็ขอพระเจ้าช่วย ท่านมั่นใจว่าพระเจ้านำท่านอยู่ใช่ไหม? ท่านรู้กว่าในที่สุด ท่านไม่มีทางทำได้ครบ 100% เหรอ แต่ท่านมั่นใจในความรอด ท่านสะอาดหมดจด ท่านบริสุทธิ์ นั่นแหละ คือข่าวดี และคนก็จะมาเชื่ออย่างนี้มากขึ้นๆ เพราะไม่มีใครดีเลยสักคนหนึ่ง พระคัมภีร์บอก ทุกคนต้องการการช่วยเหลือ พระเยซูเป็นแพทย์ มารักษาเราแล้ว มนุษย์ทุกคนป่วย เป็นโรคบาป มาหาพระเยซู พระเยซูก็รักษา จบ หายวิญญาณ ร่างกายก็ว่ากันไป เดี๋ยวนำพาไป พระเยซูอยู่ในเราแล้ว เราเชื่อพระเยซูแล้ว เราก็เกิดใหม่บริสุทธิ์ เราสะอาดแล้ว ไม่มีสักวินาที ที่ท่านเป็นบาปอีกต่อไป จำไว้ให้ดี ต่อให้เมื่อตะกี้ เดี๋ยวโกหก ท่านก็บริสุทธิ์ เพราะวิญญาณท่านบริสุทธิ์แล้ว อยู่ที่โน้นแล้ว นี่มันคือเนื้อหนังของท่าน เข้าใจใช่ไหมค่ะ มันแปลว่าอะไร? นี่คือข่าวดี และสิ่งที่พระเยซูทำ เมื่ออีสเตอร์ และท่านสมควรไหมที่จะมาฉลองอีสเตอร์ ให้มันสุดๆ ฉลองอีสเตอร์ ศุกร์ประเสริฐให้สุดๆ เอาข่าวนี้ไปบอกพี่น้องทั้งหลาย มนุษย์ทุกคน ใครก็ตาม ขอให้เขาได้เห็นสิ่งนี้ ง่ายๆ ไม่ได้ยาก ชาวบ้าน ชาวช่อง ชาวนา ชาวสวน คนไม่ได้รับการศึกษาแบบมนุษย์ ก็เชื่อง่ายๆ ไม่ยากเลย มันอยู่ที่โน้นแล้ว เห็นภาพที่ตะกี้ผมพยายามทำให้ท่านดู มีเวลานิดเดียว พยายามให้ท่านเห็นชัดๆ คืออย่างนี้ นึกถึงข้อพระคัมภีร์นี้ แล้วจำไว้นะที่ผมฉีกๆ ฉีกสัญญา ฉีกกรมธรรม์ ฉีกคำสาปแช่ง เราอยู่ในพระพรตลอดชีวิตแล้ว เอเมน ไม่มีคำสาปแช่งแม้แต่นิดหนึ่งในชีวิตของเรา เอเมน เราอยู่ในการทรงนำของพระเจ้า พระเจ้าสถิตอยู่กับเรา เอเมน
*******************************